เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังปฏิบัติหน้าที่ในเขตรับผิดชอบ หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุลุงพยายามข่มขืนหลานสาว เหตุเกิดในพื้นที่ ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี ผู้ใหญ่บ้านและญาติควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้แล้ว จึงรุดออกไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบนายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ก่อเหตุขืนใจ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี หลานสาว ถูกผู้ใหญ่บ้านและตำรวจสายตรวจชุมชน ควบคุมตัวไว้บนเก้าอี้หน้าบ้าน โดยมีนางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ป้าสะใภ้ ภรรยาผู้ก่อเหตุ และ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี แม่ รอให้การ

โดยนายณัฐพล ยอมรับว่าข่มขืนหลานสาวจริง และทำมาแล้วหายครั้ง กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ถูกภรรยาจับได้คาหลังคาเขา ขณะกำลังจะถอดเสื้อผ้าตัวเองขืนใจหลานสาว ขณะที่ ด.ญ.เอ หลานสาว ยืนยันว่าถูกลุงแท้ๆ ที่เป็นพี่ชายแม่ ขืนใจในห้องนอนมานานร่วม 1 ปี แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. ลุงเข้ามาถอดเสื้อผ้าตนในห้องนอน และกำลังจะถอดเสื้อผ้าตัวเอง เพื่อข่มขืนและป้าก็เปิดประตูเข้ามาจับได้คาหลังคาเขา

นางน้อย ป้าผู้เสียหาย และเป็นภรรยาผู้ก่อเหตุ นำตำรวจตรวจห้องนอนที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้การว่า ตนอยู่กินกับสามีมา 10 กว่าปี สามีตนมีพฤติกรรมผิดสังเกตมานานแล้ว เวลาสามีเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ได้ยินแต่เสียงปิดประตูและเปิดไฟ แต่ไม่ได้ยินเสียงล้างห้องน้ำเลย เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงค่อยๆ ย่องออกจากห้องไปก้มดูในห้องน้ำ ก็ไม่พบขาสามีอยู่ในห้องน้ำ จึงกลับมาเอากุญแจไปเปิดห้องหลานสาว พร้อมกับเปิดไฟดู พบสามีกำลังจะถอดเสื้อผ้าขืนใจหลานสาว ส่วนหลานสาวถูกถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้ว สามีตนตกใจใช้ผ้าห่มปกคลุมร่างกายหลานสาว แล้ววิ่งออกจากห้องไป

”สามีตนเป็นคนเจ้าชู้ ส่วนที่เขาทำกับหลานสาวมานานหรือยังตนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เมื่อคืนจับได้คาหนังคาเขาเลย ตนรับไม่ได้ที่สามีทำกับหลานแท้ๆ แบบนี้ มันมึนงงไปหมด หลังปรึกษากับญาติพี่น้อง ทุกคนก็รับไม่ได้เช่นกัน เพราะหลานสาวคนนี้ตนและสามีชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ 3-4 ขวบ เพราะพวกตนไม่มีลูกด้วยกัน จึงรักเขาเหมือนลูกในไส้ สอบถามหลานก็ยอมรับว่า ลุงย่องเข้ามาขืนใจในห้องนอนตอนกลางคืนเกือบ 1 ปีแล้ว หลังทำเสร็จก็ขู่หลานสาวห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่งั้นจะโดน หลานกลัวจะถูกทำร้าย เพราะเคยถูกทำร้ายมาแล้ว จึงปิดเรื่องนี้ไว้คนเดียว และมาถูกจับได้เมื่อคืนเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่า”  

แม่ ด.ญ.เอ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนแยกทางกับสามีตอนลูกสาวอายุ 3-4 ขวบ พี่ชายอยากรับเลี้ยงเป็นลูก ตนเห็นว่าเขารักเอ็นดูหลาน จึงมอบลูกสาวให้พี่ชายเลี้ยงดูตั้งแต่นั้นมา ส่วนตนก็ไปมีสามีใหม่ ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำกับหลานสาวแบบนี้ และตนก็ไว้เนื้อเชื่อใจเขา เนื่องจากเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ หลังรู้ข่าวแทบช็อก คิดว่าฝันไป พยายามหยิกแขนตัวเองตลอดว่ามันไม่ใช่ความจริง หลังจากนี้ตนก็จะเอาลูกมาอยู่ด้วย ลูกบอกตนว่าถูกลุงขืนใจมาหลายครั้งแล้ว หากพี่ชายเพิ่งทำครั้งแรก หรือที่เราเรียกว่าพลาดพลั้งไป ตนก็จะให้อภัย แต่นี่มันทำมาหลายครั้งแล้ว จึงปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่เขากระทำกับหลาน ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยโกรธเกลียดเขาเลย แต่ครั้งนี้เขาทำเกินไป ส่วนลูกสาวก็คงมีตราบาปอยู่ในใจไปตลอด

นายณัฐพล ให้การว่า ยอมรับว่าขืนใจหลานมาแล้วหลายครั้ง เวลาตนเมาเหล้าขาดสติ จนจำไม่ได้ว่าทำไปกี่ครั้งแล้ว และเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็เข้าไปในห้องนอนหลานสาวตามปกติ และทุกครั้งที่ทำ ตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญหลาน เมื่อคืนตนนั่งกินเหล้าอยู่บ้านคนเดียวจนเมา แล้วก็เข้าไปห้องหลานสาว จนถูกเมียจับได้ว่ามีอะไรกับหลาน อยากขอโทษน้องสาวว่า “เฮียผิดไปแล้ว”

ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะลุงหื่นไม่พบสารเสพติด หลังจากนั้น แม่และป้าสะใภ้ พา ด.ญ.เอ มาแจ้งความที่โรงพัก โดยเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจชุดจับกุม และได้พบนายณัฐพล แม่และป้าสะใภ้ ด.ญ.เอ ได้ต่อว่าถึงสิ่งที่ลุงหื่นทำกับหลาน ซึ่งลุงหื่นก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิดในสิ่งที่ตนกระทำลงไป ในเบื้องต้นตำรวจชุดจับกุมแจ้งข้อกว่าหาว่า “กระทำการอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป