สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.โดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ว่า “วิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง” ต่อการที่สหรัฐ “มีปฏิกิริยาไม่ปกติ” กับการที่รัฐบาลเปียงยาง “ดำเนินการตามสิทธิอันชอบธรรม” ในการทดสอบความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางทหาร เพื่อป้องกันตัวเอง และตำหนิการที่รัฐบาลวอชิงตัน “เป็นตัวตั้งตัวตี” ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จัดการประชุม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา “เป็นการข่มขู่คุกคาม”


เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุต่อไปว่า ตลอดช่วงเวลาที่ทำการทดสอบอาวุธ เกาหลีเหนือ “ไม่เคยนึกถึง” สหรัฐ หรือมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐแม้แต่น้อย นอกจากนี้ รัฐบาลวอชิงตันเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธแบบยิงจากเรือดำน้ำ (เอสแอลบีเอ็ม) เช่นกัน การวิจารณ์และแสดงความไม่พอใจต่อการที่ประเทศอื่นเพียงพัฒนาเทคโนโลยีแบบเดียวกัน “ถือเป็นเรื่องสองมาตรฐาน”


จนถึงขณะนี้ นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ยังไม่ตอบรับ “ข้อเสนอเจรจาปลายเปิด” ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ โดยกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตัน “มีเจตนาซ่อนเร้น” สื่อถึงมาตรการคว่ำบาตรที่ยังคงอยู่ และการที่สหรัฐกับเกาหลีใต้ยังคงจัดการซ้อมรบร่วมกันทุกปี


ทั้งนี้ นายคิม ซอง ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเกาหลีเหนือของสหรัฐ ประณามการทดสอบเอสแอลบีเอ็ม “รุ่นล่าสุด” ของเกาหลีเหนือ ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัวเป็นวิถีโค้ง และเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่าละเมิดมติของยูเอ็นเอสซีแทบทุกข้อ และเรียกร้องรัฐบาลเปียงยางกลับคืนสู่โต๊ะเจรจา ด้านศูนย์บัญชาการประจำภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ของกองทัพสหรัฐ ออกแถลงการณ์ประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นครั้งที่ 8 แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ และเรียกร้องรัฐบาลเปียงยางยุติ “พฤติกรรมบ่อนทำลาย” พร้อมทั้งเน้นย้ำความคุ้มครองทางทหารของสหรัฐ ที่มีต่อเกาหลีใต้และญี่ปุ่นด้วย.

เครดิตภาพ : AP