ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก ที่หลายท่านแขวนนวมไปแล้ว บางท่านฉลองเกษียณอายุงานในงานนี้ และได้เห็นแววของผู้บริหารความยั่งยืนรุ่นใหม่ ที่มาโชว์ของกันเต็มที่ในหลายเวที ที่สำคัญคือน้อง ๆ นักศึกษาจากหลากหลายมหาวิทยาลัยที่สนใจเรื่องความยั่งยืน แวะเวียนมางานจำนวนมาก

น้อง ๆ Gen S บอกผมว่าปีนี้มางาน SX เป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มางานความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ กลับไปจะชวนเพื่อน ๆ มาอีก และบอกว่าจะมาทุกปี เพราะพื้นที่การเรียนรู้นี้เหมือนเป็น สวรรค์ของคน Gen S

ใครคือ Gen S

“Gen S … Generation Sustainability” หรือ “เจนยั่งยืน” โดย Gen S นี้ ไม่ได้แบ่งตามช่วงปีเกิดเหมือน Gen Baby Boomer/X/Y/Z/Alpha แต่ แบ่งตามความสนใจในวิกฤติโลกเดือด และมีวิถีชีวิตที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม มีความเอื้ออาทรต่อผู้คนในสังคม อาจจะเป็น Baby Boomer ที่มีหัวก้าวหน้า หรือ Gen X / Y ที่ถูกลูกหลานบังคับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่เกิดปลายศตวรรษที่ 20 ต่อมาจนศตวรรษที่ 21 คือหลังปี 2000 ซึ่งพวกเขากำลังรับเคราะห์จากผล
กระทบวิกฤติโลกเดือด และความไม่ยั่งยืนของโลก

พวก Gen S หวังพึ่งใครไม่ได้แล้ว จะรอหน่วยงาน UN องค์กรระหว่างประเทศ หรือรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ให้เปลี่ยนแปลงนโยบาย ปรับเปลี่ยนกฎหมาย ก็คงจะช้าไม่ทันกาล พวกเขาจึงออกมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง รวมกลุ่มกันเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิด Movement และ Impact ในวงกว้าง

Gen S ทำอะไรกันบ้าง

1.มีส่วนร่วมรณรงค์: พวกเขารวมกลุ่มเคลื่อนไหวรณรงค์ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องภาวะโลกเดือด การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ ความเหลื่อมลํ้าทางสังคม ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน

2.ช่วยพัฒนาการศึกษา และร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ : พวกเขามักจะจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องความยั่งยืนใน SDG ทั้ง 17 ข้อ และมักจะทำคลิปให้ความรู้ แนะนำทิปใหม่ ๆ เพื่อสื่อสารให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

3.เลือกที่จะบริโภคอย่างยั่งยืน : พวกเขาจะเป็นคนช่างเลือก มักจะสนับสนุน เลือกซื้อสินค้า และบริการจาก Brand ที่สนใจและให้ความสำคัญกับความยั่งยืน แม้ว่าสินค้าและบริการเหล่านั้นจะมีราคาที่สูงกว่า รวมถึงพวกเขาจะลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจความยั่งยืน และมีมาตรฐาน ESG

4.เป็นนักเคลื่อนไหว : Gen S จะมีภาวะผู้นำสูง จะร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นนักเคลื่อนไหว อาจจะมีการประท้วงอย่างสงบตามกฎหมาย มีการออกสื่อต่าง ๆ สร้างกระแสสังคมเพื่อความยั่งยืน

5.เป็นอาสาสมัครพัฒนาชุมชน : พวกเขาชอบกิจกรรมจิตอาสา ชอบทำเป็นตัวอย่าง ชอบการมีส่วนร่วมกับชุมชน เช่น กิจกรรมแยกขยะ เก็บขยะ ปลูกป่า พัฒนาสินค้าชุมชน เป็นต้น

สรุปคือ Gen S ให้ความสำคัญเร่งด่วนกับ วิกฤติโลกเดือด และสังคมที่เท่าเทียม พยายามหาวิธีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงรุก ซึ่งเป็นหน้าที่ของพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21… โดย ทำ ทัน ที

ผมได้พยายามรวบรวมความคิด ว่า Gen S อยากเห็นอะไรในปีต่อไป 1.อยากให้เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้มีเวทีพูดคุยโชว์ความคิด และผลงานที่เวทีใหญ่ มากกว่านี้ อยากให้ผู้ใหญ่มากันมาก ๆ มาฟังเสียงของเด็ก เยาวชนว่าพวกเขาต้องการอะไร คงจะต้องรีบสร้างเครือข่ายกับ Gen S ที่ยังอยู่ในวัยเรียนทั่วประเทศให้มากขึ้น 2.อยากเห็นผู้นำเยาวชนนานาชาติ ทั้งในอาเซียน และทั่วโลก มาขึ้นเวที และจัดกิจกรรม SDG ร่วมกันให้มากขึ้น 3.อยากจัดหมวด SDG ให้ชัด อยากเห็นตัวผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อน SDG Goals ต่าง ๆ ให้ชัดเจน ว่าแต่ละเรื่องหน่วยงานราชการใดรับผิดชอบ ภาคธุรกิจ และประชาสังคมมีใครเล่นบ้าง โครงสร้างการทำงานร่วมกันเป็นอย่างไร เผื่อว่าน้อง ๆ อาสามาช่วยได้ถูกที่ถูกทาง 4.หลังงานจบแล้ว จนถึงปีหน้ามีกิจกรรมอะไรให้น้อง ๆ ร่วมด้วยได้อีกบ้าง จะใช้ Platform อะไร เพื่อพัฒนาต่อยอดให้ Event เป็น Movement จะมี Admin ที่เป็น Change-Maker มาขับเคลื่อนแต่ละเรื่อง เกาะติดสถานการณ์ต่อไหม 5.อยากให้ตั้งเป้าหมายการปลดปล่อยคาร์บอนให้ชัดเจนเป็นตัวอย่าง มีแนวทางการลด และมีวิธีชดเชยที่ทำได้ง่าย ได้ประโยชน์กับการเพิ่มพื้นที่ป่าในเมืองไทย ถ้าหาวิธีชดเชยคาร์บอนให้ผู้มางาน หรือจะร่วมกันชดเชยจะดีมาก

ได้ทำการบ้านบางส่วนสำหรับ SX ปีหน้า ที่สะท้อนจาก Gen S ให้แล้วนะครับ และขอให้กำลังใจผู้จัดงาน ทุกฝ่าย ทุกองค์กร ที่ทุ่มเททำให้เกิดงานที่ดี ๆ เช่นนี้ งาน SX นี้เป็นสวรรค์ของคน Gen S อย่างแท้จริง.