เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งเป็นวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุดถึง ผู้รับปฏิบัติ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 2) ผบช.ก., น., ภ.1-9, สอท., กมค., สยศ.ตร.,หน.ส่วนอำนวยการและสนับสนุน ศปก.ตร. และ โฆษก ตร., รอง ผบ.ตร.(สส) (ปป) ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในสายงาน สส. และ ปป. ใจความว่า ตามที่ บก.ปคบ. ได้ดำเนินคดีกับ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ “ตั๊ก” และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ “เบียร์” กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดที่เกี่ยวข้อง

โดยการหลอกลวงขายทองรูปพรรณด้วยการไลฟ์สดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และ บช.สอท. ได้ดำเนินคดีกับ นายพรมธาดา นาคเจริญ หรือ “ใบหนาด” กรณีไลฟ์สดผ่านสื่อสังคมออนไลน์หลอกลวงขายทองรูปพรรณราคาถูกแก่ประชาชน แต่ผู้ซื้อไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับไม่ตรงตามที่โฆษณา โดยมีดารานักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมในการโฆษณาขายสินค้า และกรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการดำเนินการขายตรงของบริษัทชื่อดัง

เพื่อให้การดำเนินคดีดังกล่าวข้างต้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และเป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับกรณีที่พบว่าเป็นการกระทำความผิดในลักษณะฉ้อโกงประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชนโดยเร็วที่สุด จึงให้ดำเนินการ ดังนี้

1.มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส 2) เป็นผู้ควบคุม สั่งการบริหารเหตุการณ์ สืบสวนสอบสวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย หรืออาจได้รับความเสียหายให้สามารถแจ้งความร้องทุกข์หรือให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรววจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ รวมถึงพิจารณาคัดเลือกพนักงานสอบสวนที่มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์เข้าร่วม เป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีดังกล่าวอีกส่วนหนึ่ง

2.ให้ บช.สอท. และ บช.ก.(ปคบ.) กำหนดประเด็นการสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความสามารถสอบสวนได้ตรงตามประเด็นและองค์ประกอบแห่งการกระทำผิด และเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยต้องดำเนินคดีให้ครบถ้วนทุกข้อหากับผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย

3.ให้ บช.น., ภ.1-9 สั่งการพนักงานสอบสวนในสังกัดให้สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการสืบสวนสอบสวนแก่คณะทำงานฯ ตามข้อ 1 และสนับสนุนการปฏิบัติงานของ บช.สอท. และ บช.ก. ตามที่ได้รับการร้องขอ

4.ให้ สยศ.ตร. รวบรวมสถิติข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าวในประเด็นสำคัญ เช่น จำนวนผู้ต้องหา ผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหาย ของกลางทางคดี หรือทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ตรวจสอบตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในภาพรวมของ ตร.ต่อไป

5.ให้ กมค. รวบรวมข้อกล่าวหา ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับ บช.สอท., บช.ก. และคณะทำงานฯ ตามข้อ 1 ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินการอื่นใดตามที่ได้รับการร้องขอ

6.ให้ ศปก.ตร. เปิดช่องทางสายด่วน 1599 เพื่อเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุให้กับผู้เสียหายและส่งต่อข้อมูลทางคดีให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อทำการสืบสวนสอบสวนต่อไปโดยเร็ว ตลอดจนรับแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว

7.ให้ โฆษก ตร. ประสานข้อมูลและติตามความคืบหน้าทางคดีกับคณะทำงานฯ บช.สอท.,บช,ก. และ ศปก.ตร. อย่างใกล้ชิด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับผู้เสียหายและประชาชนได้รับทราบทุกระยะ ให้ บช.สอท. และ บช.ก. รายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าวข้างต้นให้ทราบ โดยรายงานครั้งแรกในวันที่ 4 ต.ค.67 เวลา 14.00 น. และครั้งต่อไปให้รายงานทุกวันก่อนเวลา 10.00 น. ผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช เพื่อพิจารณาผลการปฏิบัติ แล้วรายงาน รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ทราบทุกวัน ก่อนเวลา 15.00. น. เพื่อทราบและดำเนินการ