กรณีเกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมศูนย์บริบาลช้าง มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่มีช้าง 127 เชือก และสัตว์อื่นๆ อีกมากมายทั้งหมา แมว ควาย ไก่ หมู  กว่า 5 พันตัว ที่ป่วย พิการ ทำให้ต้องมีการระดมเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือและน้ำป่ายังได้พัดเอาช้างไปกับกระแสน้ำที่แรงและท่วมสูงกว่า 2 เมตรทำให้ช้างถูกน้ำพัดไปกว่า 30 เชือก กระทั่งมาพบซากช้างจมน้ำตายแล้วจำนวนหนึ่ง จนกลายเป็นประเด็นดราม่า จน นางแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ ออกมาโพสต์แจ้งว่าจะมีการฟ้องร้อง เพื่อขอจบดราม่าดังกล่าว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ขอจบดราม่า! ‘แสงเดือน’ ลั่นการใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นมีมูลค่าที่ต้องจ่ายเสมอ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแสงเดือน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน เพจเฟซบุ๊ก “แสงเดือน ชัยเลิศ-Saengduean Chailert” อีกครั้ง ระบุว่า “มีช้างตัวผู้สองเชือก ชื่อพลายขุนเดช และพลายดอกแก้ว ที่คุณหนูนาเอามาฝากทางเราเลี้ยงไว้หลายปี ถ้าคุณหนูนาสงสารและเป็นห่วงเขาจริงๆขอช่วยมาย้ายพวกเขาไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมโดยด่วนค่ะ” ภายหลังมีการโพสต์ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆนานา และแชร์กันออกไปจำนวนมาก จนกลายเป็นดราม่าอีกครั้ง

ก่อนมีการโพสต์คลิปช้างกำลังเล่นท่อนไม้ พร้อมข้อความระบุว่า “มีคนไปโพสต์ว่าพลายขุนเดช อ่อนแรง น่าเป็นห่วง นี่คือสภาพน้องขุนเดชในวันนี้ นี่คือห้องนอนของน้องและทุกๆวันน้องจะมีพื้นที่ออกไปเดินเล่นค่ะ”

ต่อมา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก “NuNa Silpa-archa” ระบุว่า “ว่าด้วยช้าง 2 เชือกที่เกี่ยวพันกับดิฉัน..ที่อยู่ที่ปางคุณเล็ก..เชือกแรก..ขุนเดช.. น้องเป็นช้างป่า..ที่ถูกบ่วงแร้วนายพรานรัดข้อจนเป็นแผลใหญ่บวม… ทำให้เดินไม่ปกติ..ดิฉันไปเจอน้องเมื่อปี 2557 ที่ส่วนสัตว์ป่า ม. เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน .. น้องถูกเลี้ยงอยู่เชือกเดียวน่าสงสารมาก…ช่วงนั้นเป็นปีแรกที่ดิฉันได้รู้จักคุณเล็ก และชื่นชมคุณเล็กมาก ..ดิฉันวิ่งเต้นทำเรื่องขออธิบดีอุทยานพาขุนเดชไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก .. จนสำเร็จ..

ตอนที่แรกเจอขุนเดช อายุประมาณ 4 ขวบตอนนี้น้องก็คง 14 แล้ว …เชือกที่ 2 .. ดอกแก้ว..ดิฉันเจอดอกแก้วที่โรงพยาบาลช้างคชบาล ลำปาง ..น้องมากับแม่ แม่น้องป่วยหนักคือเหมือนมดลูกหลุดจากช่องคลอดมาครึ่งหนึ่ง ถ้าดิฉันจำไม่ผิด…ดอกแก้วตอนนั้นอายุสองเดือนคลอเคลียอยู่กับแม่ตลอด..ดิฉันพูดกับแม่โม่ดิพอ แม่ของดอกแก้วว่าอยู่กับลูกนะอย่าทิ้งลูกไป…พอดีฉันกลับจากลำปางได้สามวันหมอก็โทรมาแจ้งว่าแม่ล้มแล้ว..ดิฉันสงสารดอกแก้วมากกลัวเจ้าของจะเอาไปขายที่ไม่เหมาะสมจึงขอซื้อมาตอนนั้นราคา 850,000 (ถ้าตอนนี้คงเป็นล้าน)..ช่วงปีแรกทางคชบาลเลี้ยงน้อง.. หาแม่รับคือแม่สิงขรให้..แต่ภายหลังมีข่าวว่าแม่สิงขรอาจจะท้องและคงไม่เหมาะจะเลี้ยงลูกรับ…ดิฉันจึงประสานขอคุณเล็กรับดอกแก้วไปเลี้ยงให้ด้วย… ซึ่งเธอก็ยินดี…
/////////
ดิฉันต้องขอบคุณคุณเล็กมากที่ตลอดเวลาได้เลี้ยงดูขุนเดชและดอกแก้วให้…แต่ดิฉันก็ไม่ได้ไปฝากเฉยๆ ..ในช่วงปีแรกที่ดิฉันไปหาคุณเล็กบ่อยๆนั้น ดิฉันได้สนับสนุนคุณเล็กอย่างที่ในชีวิต แม้จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่เคยให้ใครเท่านี้มาก่อนเพราะรักคุณเล็กมาก…
////////
ดิฉันต้องขอบคุณเล็กอีกครั้ง สำหรับการดูแลขุนเดชและดอกแก้วคุณเล็กให้ไปรับโดยเร็ว..ดิฉันกำลังจะไปรับทั้งคู่มานะคะ
///////
ต้องเข้าใจด้วยนะคะว่าทุกอย่างที่ดิฉันทำเพื่อช้าง ไม่มีธุรกิจใดเกี่ยวกับช้าง ไม่ได้มีหน้าที่ใดๆ ไม่เคยได้เงินจากช้างเลยค่ะ …เกิดแต่รักล้วนๆ…”

จากนั้นมีการโพสต์รูป ตัวเองเล่นกับช้างพร้อมข้อความระบุว่า “บางท่านอยากเห็นรูปน้องขุนเดชกับน้องดอกแก้ว…ก็จะขอโพสต์นะคะ เป็นภาพน้องขุนเดชตอนยังเด็ก ไม่มีภาพปัจจุบันค่ะ …ที่ข้อเท้าพันผ้า..ส่วนน้องดอกแก้วมีทั้งตอนที่เป็นเด็กที่ดิฉันป้อนนมที่คชบาล และตอนที่โตแล้วที่ปางคุณเล็ก รูปสุดท้ายน่ะค่ะ..ใดๆที่ดิฉันทำ เพราะรักช้างล้วนๆไม่เคยมีหน้าที่ใดที่ต้องทำ ไม่เคยได้เงิน ทำเพราะใจรัก…”

กระทั่งล่าสุดโพสต์ภาพช้างสภาพผอมโซ และภาพกำลังป้อนอาหารช้าง พร้อมข้อความระบุว่า “เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เพราะมีคนเอาภาพมาเปรียบเทียบสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับน้องขุนเดช…ภาพแรกคือน้องขุนเดชตอนที่ชาวบ้านพบแล้วแจ้งกรมอุทยาน .. จากนั้นกรมอุทยานจึงนำน้องมารักษาตัวที่ส่วนสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน…น้องอยู่ที่นี่ราว 3 ปี

ภาพที่สองคือน้องฟื้นตัวแล้วและเป็นตอนที่ดิฉันไปเจอขุนเดชที่กำแพงแสนค่ะ..ก่อนที่จะไปอยู่ที่ปางคุณเล็ก …เพราะกำลังมีคนเอาไปเปรียบเทียบว่า..ก่อนไปอยู่ปางคุณเล็กนั้นเป็นรูปแรก…ไม่ใช่นะคะเป็นรูปที่สองค่ะ …ขอคนที่ทำอย่างนี้กรุณาอย่าบิดเบือน …”

ทำเอาโซเชียลเสียงแตก แยกเป็น 2 ทีม และวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา ทั้งเห็นด้วย ทั้งให้กำลังทั้ง 2 ฝ่าย อยากให้หยุดขัดแย้งร่วมมือกันดูแลช้าง เน้นความเป็นอยู่ช้างเป็นสำคัญ เป็นต้น และแชร์กันออกไปจำนวนมาก

ขอบคุณข้อมูล – ภาพ เพจ “แสงเดือน ชัยเลิศ-Saengduean Chailert” – เฟซบุ๊ก “NuNa Silpa-archa”