เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ สปป.ลาว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่วุฒิสภาส่งร่าง พ.ร.บ.ประชามติ กลับมาในรูปแบบทำประชามติสองชั้น ว่า จะต้องนำกลับมาพิจารณาในสภา ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาเพียงสองสัปดาห์เท่านั้น ก็จะปิดสมัยประชุม ดังนั้นสภาจึงจะต้องเร่งพิจารณาว่าเห็นด้วยกับการแก้ไขของวุฒิสภาหรือไม่ หากไม่เห็นด้วยก็จะต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันสองสภาเพื่อพิจารณา จึงเห็นว่าควรได้ข้อยุติในเบื้องต้นภายในสมัยประชุมนี้ เพื่อจะใช้เวลาในช่วงสมัยประชุมในการพิจารณาหาข้อยุติ

แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยตั้งคณะกรรมาธิการร่วม โดยเมื่อมีการแก้ไขก็มักจะใช้กันไปก่อน เว้นแต่มีข้อขัดแย้งกันจริงๆ ซึ่งตนเห็นว่าแล้วแต่วิปรัฐบาลจะเลือกใช้วิธีใด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน แต่สิ่งสำคัญกฎหมายการทำประชามติจะต้องมี และทางออกที่ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประชาชนควรจะต้องมีการประนีประนอม แทนที่จะไปนับหนึ่งใหม่ แต่ขณะเดียวกันจะต้องมีความสมดุลในการใช้อำนาจของแต่ละฝ่ายด้วย 

“เป็นเรื่องไม่ยากหากคุยกันแล้วมีความปรารถนาดี และหวังดีต่อประเทศชาติ เชื่อว่าประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ ประชาชนมีความเชื่อมั่น ดังนั้น แต่ละฝ่ายควรถอยคนละก้าวสองก้าวก็ได้เพื่อประโยชน์สูงสุดที่จะได้กับประชาชน ดังนั้น เสียเวลาคุยกัน เพื่อให้จบ โดยมีเป้าหมายคือทำประชามติให้ได้แก้รัฐธรรมนูญให้ได้ดีกว่า โดยคุยกันตั้งแต่ตอนแรกว่าจะตั้งคณะกรรมาธิการร่วมหรือไม่ตั้ง ผมเชื่อว่าคุยกันได้“ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

ส่วนที่ทางวิปรัฐบาลยืนยันที่จะให้กลับไปใช้ร่างของสภาผู้แทนราษฎรนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนเดาไม่ถูก เนื่องจากวิปรัฐบาลจะต้องฟังเสียงของแต่ละพรรคการเมืองด้วย 

สำหรับกรณีที่ยังยังคงมีข้อถกเถียงว่าจะต้องทำประชามติ 2 หรือ 3 รอบนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังคงไม่มีข้อยุติและไม่มีใครบอกได้ว่า จะต้องทำกี่รอบ เพราะเคยถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วแต่ศาลไม่ตอบ แต่ขอให้ไปดูคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้ ว่าชัดเจนแล้ว จึงทำให้เกิดการตีความที่แตกต่างว่า ต้องทำสองรอบหรือสามรอบ แต่ส่วนตัวมองว่า ทำสามรอบก็ไม่เสี่ยง เพราะหากทำสองรอบเสร็จ แล้วหากมีคนไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ถึงขณะนั้นก็ไม่ทราบว่าศาลจะตีความอย่างไร.