นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า (จท.) กำหนดมาตรการในการดูแลความปลอดภัยของเรือโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุของเรือโดยสารบ่อยครั้ง โดยได้กำชับให้ จท. ตรวจสอบเรือทุกลำ ทั้งเรือโดยสาร เรือโดยสารสาธารณะ และเรือโดยสารทั่วไป ประกอบด้วย เรือโดยสารต่างๆ ที่ให้บริการเดินเรือทั้งในลำแม่น้ำ อาทิ แม่น้ำเจ้าพระยา และให้บริการชายฝั่งทะเล เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล หรือเกาะต่างๆ ซึ่งมีจำนวนเรือโดยสารรวมทั้งสิ้น 15,685 ลำ โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซล และเบนซิน แบ่งเป็นเรือโดยสารประจำทาง 266 ลำ เรือโดยสารและภัตตาคาร 108 ลำ 

นางมนพร กล่าวต่อว่า ขณะที่เรือโดยสารประจำทางที่ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะทางน้ำในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ เรือโดยสารในคลองแสนแสบ 60 ลำ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล B20 เรือโดยสารในลำแม่น้ำเจ้าพระยา แบ่งเป็น เรือด่วนเจ้าพระยา 40 ลำ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล B 20 และเรือไฟฟ้า 35 ลำ และเรือโดยสารภัตตาคาร 52 ลำ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ จท. จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวดในทุกจังหวัด เพื่อตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงโครงสร้างตัวเรือ, ตรวจสอบระบบท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบไฟฟ้า, ตรวจสอบเครื่องยนต์ ระบบกลไกในการขับเคลื่อนเรือ, ตรวจสอบอุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือ อาทิ พวงชูชีพ เสื้อชูชีพ อุปกรณ์ดับเพลิงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้, ตรวจสอบระบบติดต่อสื่อสาร สัญญาณไฟเดินเรือ

นางมนพร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ให้ตรวจสอบใบอนุญาตใช้เรือ ใบประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ และผู้ควบคุมเครื่องจักร รวมถึงเข้มงวดการตรวจตราก่อนเรือออกเดินทางจากท่าเรือต่างๆ ไม่ให้บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่ากำหนด ตรวจสอบมิให้เรือบรรทุกผู้โดยสารบรรทุกสิ่งของที่อาจก่อให้เกิดอันตราย อาทิ ถังแก๊ส LPG หรือวัตถุอันตรายอื่นๆ เป็นต้น อีกทั้งเข้มงวดกวดขันผู้ควบคุมเรือให้มีความพร้อมในการเดินเรือ และติดตามข้อมูลข่าวสารพยากรณ์อากาศ พร้อมทั้งจัดประชุมประชาสัมพันธ์รณรงค์มาตรการความปลอดภัยในการเดินทางทางน้ำร่วมกับชมรม สมาคมต่างๆ และผู้ประกอบการเรือ 

นางมนพร กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรือโดยสารและภัตตาคาร ที่มี 108 ลำ ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม โดยถังแก๊ส LPG ที่ใช้ในการปรุงอาหาร ให้จัดวางแยกจากพื้นที่ที่บรรทุกผู้โดยสารและอยู่ในพื้นที่ดาดฟ้าเปิด เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ และเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร นอกจากนั้น บริเวณปรุงอาหารต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิง มีการติดตั้งวาล์วนิรภัย อีกทั้งยังต้องกำหนดจำนวนถังแก๊ส เพื่อปรุงอาหารให้เป็นไปตามขนาดเรือโดยสารและภัตตาคาร 

ขณะที่ผนังในห้องครัวส่วนที่ปรุงอาหารต้องเป็นวัตถุโลหะ รวมถึงต้องมีการกำหนดหลักสูตรอบรมและประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือโดยสารและภัตตาคาร อาทิ การดับไฟ การอพยพผู้โดยสารในกรณีฉุกเฉิน การปฐมพยาบาล ตลอดจนการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นเหตุไม่ปลอดภัยในการเดินทางทางน้ำการคมนาคมทางน้ำ แจ้งสายด่วนกรมเจ้าท่า หมายเลข 1199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.