สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองอัลมาตี ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า ผลการลงประชามติ 2 ครั้ง ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ของรัฐ แสดงให้เห็นว่า ชาวคาซัคสถานเห็นชอบกับการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ด้วยคะแนนสนับสนุนประมาณ 70% ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งของคาซัคสถาน ระบุว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิอยู่ที่ 63.87% และคาดว่าจะประกาศผลการลงประชามติครั้งสุดท้ายในวันนี้ (7 ต.ค.)

ประธานาธิบดีคาสซิม โจมาร์ต-โทคาเยฟ ผู้นำคาซัคสถาน กล่าวว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะเป็น “โครงการใหญ่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์ของคาซัคสถาน ซึ่งเขาต้องการกลุ่มบริษัทระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทระดับโลก ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย

อนึ่ง ผลการลงประชามติคาดว่าจะสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว แม้มีกระแสความไม่พอใจเกี่ยวกับการได้รับรังสีปริมาณมหาศาล อันเป็นผลจากทดสอบนิวเคลียร์ในยุคโซเวียตก็ตาม

“การลงประชามติครั้งนี้ ถือเป็นการพิสูจน์ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในคาซัคสถาน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เกี่ยวกับแนวคิดของรัฐที่รับฟัง” โทคาเยฟ กล่าวก่อนการลงประชามติ

แม้ฝ่ายต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางระบบนิเวศ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในโรงไฟฟ้า แต่พวกเขาประสบกับความยากลำบากในการแสดงความคิดเห็น โดยสื่อเอกชนในท้องถิ่นรายงานว่า ชาวคาซัคสถานหลายสิบคนถูกจับกุมในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนการลงประชามติ.

เครดิตภาพ : AFP