เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเพจ “ข่าวบ้านผือ” โพสต์ภาพโรงน้ำประปา พร้อมกับระบุข้อความว่า “โจรแสบขโมยเครื่องสูบน้ำทำคนทั้งหมู่บ้านเดือดร้อนไม่มีน้ำใช้น้ำอาบ วันที่ 5 ต.ค.67 นายทศพร แสนศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านวังสวย ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ สอนบัว รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านผือ ว่าได้มีคนร้ายงัดโรงสูบน้ำประปาหมู่บ้าน แล้วขโมยเครื่องสูบน้ำ ที่ใช้ผลิตน้ำประปา ปั๊มน้ำ 4 แรง จำนวน 1 เครื่อง ราคา 30,000 บาท ทำให้ชาวบ้านวังสวย หมู่ 5 บ้านกลางน้อย หมู่ 6 และหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง กว่า 500 หลังคาเรือน ที่ใช้น้ำประปาร่วมกันไม่มีน้ำใช้ ตั้งแต่คืนวันที่ 4 ต ค.เป็นต้นมา”

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบโรงสูบน้ำประปา ตั้งอยู่ทางเข้าบ้านวังสวย หมู่ 5 ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน คือบ้านวังสวย บ้านกลางน้อย และบ้านเหล่ามะแงว ใช้อุปโภคบริโภคกันมา 24 ปี เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งเป็นงบประมาณของกรมอนามัย จัดสรรมาให้ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน โดยมีผู้นำชุมชน และชาวบ้านที่ดูแลโรงผลิตน้ำประปา นำตรวจสอบ ภายในพบว่าเครื่องสูบน้ำ ยี่ห้อ brass impeller สีน้ำเงิน ขนาด 4 แรง 2 ตัว ถูกคนร้ายขโมยถอดเอาไป 1 เครื่อง พบร่องรอบคนร้ายถอดน็อตทิ้งไว้ 2 ตัว และตัดสายไฟฟ้าจากตู้คอนโทรล ริมถนนหน้าประตูพบรอยล้อรถตระกุยจนเป็นร่อง และยังพบรอยรองเท้า คาดว่าคนร้ายมาด้วยกันไม่ต่ำกว่า 3 คน

นายคำตัน ทองมา อายุ 64 ปี คนดูแลโรงสูบน้ำ เล่าว่า มาตรวจโรงสูบน้ำเช้านี้พบว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยเครื่องสูบน้ำไป 1 เครื่อง สายไฟก็โดนตัดไปจนเกลี้ยง ประตูรั้วด้านหน้าที่คล้องกุญแจไว้แต่ไม่ได้ล็อก เพราะแม่กุญแจชำรุดก็โดนคนร้ายขโมยเอาไปด้วย และยังพบรอยล้อรถกระบะกลุ่มคนร้ายติดโคลน คาดว่าที่คนร้ายขโมยไปได้แค่ 1 เครื่อง เพราะคนร้ายมาตอนกลางดึก เครื่องสูบน้ำมีน้ำหนักมาก เลยเอาไปได้เพียง 1 เครื่อง คงกลัวคนมาเห็นเลยพากันรีบหลบหนี ดูแลโรงสูบน้ำประปามาประมาณ 15 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย บางวันลืมปิดประตูเอาไว้ก็ไม่เคยหาย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ คนร้ายน่าจะเป็นคนต่างถิ่น ถ้าเป็นคนในหมู่บ้าน ก็คงจะไม่ขโมย

นางเดชไพวรรณ ชนูนันท์ อายุ 59 ปี ผญบ. หมู่ 6 บ้านกลางน้อย เล่าว่า รู้สึกเสียใจมากที่มีคนร้ายมาขโมยเครื่องสูบน้ำ เพราะเป็นของจำเป็น ทำให้ได้รับความเดือนร้อนทั้ง 3 หมู่บ้าน โชคดีที่คนร้ายได้เครื่องสูบน้ำไปเพียง 1 ตัว คนร้ายน่าจะมีความรู้เรื่องไฟฟ้าหรือเป็นช่าง คงไม่ใช่คนในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะคนในพื้นที่ ก็ใช้น้ำประปาที่โรงสูบน้ำแห่งนี้ด้วยกันทั้งหมด คงไม่มาลักเอาเครื่องสูบน้ำไปเป็นแน่ ส่วนแนวทางการป้องกันในเบื้องต้น จะจัดเวรยามมาช่วยกันดูแล เพราะกลัวคนร้ายย้อนกลับมาขโมยเครื่องสูบน้ำที่เหลือไป จะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม รวมทั้งจัดซื้อกุญแจที่มีคุณภาพมาปิดล็อคประตูรั้ว ขอให้ทางตำรวจจับคนร้ายได้โดยเร็ว เพราะชาวบ้านเดือดร้อน

เบื้องต้นผู้นำชุมชนได้ได้เบิกงบกองทุนหมู่บ้านที่เก็บค่าน้ำประปาจากชาวบ้าน ไปซื้อสายไฟมาเชื่อมต่อเข้าเครื่องสูบน้ำที่เหลือ 1 เครื่อง เพื่อให้ชาวบ้านได้มีน้ำใช้ไปก่อน ถึงแม้ว่ากำลังผลิตน้ำประปาจะไม่เท่าเดิม แต่ก็พอประทังใช้ในชีวิตประจำวันไปก่อน ด้านตำรวจจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง ตามเส้นททางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป