เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์เรื่องหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตแม่ทัพภาค 4 ในคดีตากใบ พรรคเพื่อไทย ประสาน พล.อ.พิศาล ให้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องพรรค แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ว่า ถ้าความไว้เนื้อเชื่อใจในกระบวนการยุติธรรม เป็นกลไก เป็นกุญแจสำคัญ ในการคลี่คลายความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณี พล.อ.พิศาล จึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องสร้างให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมว่าระบบนิติรัฐ นิติธรรม ยังคงอยู่ และตนอยากถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่าได้ฟังคำตอบนายภูมิธรรม ผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว คำตอบแบบนี้ ท่านนายกฯ รับได้หรือไม่

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ถ้านายกฯ บอกว่า ท่านยังลังเลอยู่ ท่านไปเปิดคลิปวิดีโอย้อนหลัง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดถึงสถานการณ์ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นชนวนให้เกิดความรุนแรงที่ใหญ่โตมากขึ้น กรณีที่ไปพูดคำว่า โจรกระจอก จำได้หรือไม่ คำพูด และท่าทีของรัฐบาล มีผลต่อความมั่นคงของประเทศอย่างมาก บทเรียนไม่ใช่ว่าไม่มี คนที่สอนบทเรียนให้กับนายกฯ ได้ดี ก็คือนายทักษิณ ถ้านายทักษิณยังจำไม่ได้ ก็ถามนายทักษิณ ว่านายทักษิณเคยพูดคำว่าโจรกระจอกไหม แล้วผลลัพธ์จากวันนั้นมันเป็นอย่างไร ผลลัพธ์จากการพูดประโยคนั้น มันเกิดอะไรขึ้นจนถึงทุกวันนี้ แล้วจะปล่อยให้นายภูมิธรรม ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ท่าทีอย่างนี้หรือ แล้วจะรับผิดชอบกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้อย่างไร เป็นถึง รมว.กลาโหม และดูแลความมั่นคงด้วย

“นี่หรือ รมว.กลาโหม ที่เป็นพลเรือน ที่ประชาชนจะสามารถฝากความหวังของพวกเขาได้ ฝากนายภูมิธรรมทำให้ไตร่ตรองดีๆ คำพูดนายภูมิธรรม มีต้นทุนมหาศาลต่อความมั่นคงประเทศ กล้ารับผิดชอบกับสิ่งที่พูดและท่าทีหรือเปล่า พูดออกมาได้อย่างไร และความสงบจะเกิดขึ้นได้อย่างไร อย่างน้อยต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่บอกปัดเลย คำถามคือ ถ้านายภูมิธรรม กับ น.ส.แพทองธาร คิดว่าตัวเองทำถูก กล้าๆ ลงไปประจำการที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ไม่ต้องเอาขบวนอารักขา เอิกเกริก ปกป้อง ป้องกัน กล้าหรือเปล่า และต่อให้มีขบวนอารักขา รมว.กลาโหม ตอบอย่างนี้ จะกล้าไปหรือเปล่า ตอบได้เลยว่า ถ้าท่าทีนายภูมิธรรม ยังเป็นแบบนี้ ความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปะทุมาตั้งแต่ยุคของนายทักษิณ ยากที่จะแก้ไข ยากที่จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นได้” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าหลบหนีสำเร็จ จนคดีหมดอายุความแล้ว พล.อ.พิศาล สุดท้ายมานั่งลอยหน้าลอยตาทำหน้าที่ สส. ในสภา ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนจะทำอย่างไร รวมถึงจะนำไปอภิปรายไว้วางใจ หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าในอีก 20 กว่าวัน แล้วคดีมันหมดอายุความไปแล้ว แล้วทาง พล.อ.พิศาล กลับมานั่งประชุมในพรรคเพื่อไทย คำถามคือ น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคและเป็นถึงนายกฯ ด้วย จะรับผิดชอบอย่างไร จะไปกอดไหล่แสดงความยินดีกับ พล.อ.พิศาล หรือ และนายภูมิธรรม จะไปกอดไหล่ด้วยหรือ หรือว่า พล.อ.พิศาล จะหนีตลอดไป หรือว่าหมดอายุความแล้ว จะกลับมานั่งประชุม แล้วบอกเป็นเรื่องส่วนตัว 

“ผมคิดว่า เรื่องนี้มันถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แต่ที่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ การที่ประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาไม่ไว้วางใจ การที่สภาโดยฝ่ายค้าน อาจจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเสียงข้างมากกดปุ่ม ยังไงยกมือคุณก็ชนะอยู่แล้ว แต่คำถามคือ คุณชนะในสภา แต่ชนะใจของประชาชน ทำให้ประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เขาไว้วางใจคุณได้หรือเปล่าล่ะ” นายวิโรจน์ กล่าว.