เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา โฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แขวงทางหลวงสมุทรสาคร กรมทางหลวง (ทล.) ได้รายงานเหตุน้ำท่วมในเส้นทางทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) บริเวณขาเข้า ระหว่าง กม.ที่ 42+700-44+000 ระดับน้ำท่วมขังประมาณ 15-25 เซนติเมตร (ซม.) ส่งผลให้การจราจรสามารถผ่านได้แค่ 1-2 ช่องจราจรทางด้านขวา และบริเวณขาออก ระหว่าง กม.ที่ 42+700-44+000 ระดับน้ำท่วมขังประมาณ 15-25 ซม. การจราจรช่องทางหลักผ่านได้ 1-2 ช่องจราจรด้านขวา โดยสาเหตุมาจากเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 67 ช่วงเวลาประมาณ 23.00-01.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ร่วมกับน้ำทะเลหนุนสูงบนถนนพระราม 2 ทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย เนื่องจากปริมาณน้ำท่วมขัง กินรัศมีเป็นวงกว้าง ประกอบกับปริมาณน้ำในคลองสาธารณะ (คลองเกตุมฯ) อยู่ในระดับสูง จึงระบายน้ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ 

นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าเหตุน้ำท่วมดังกล่าว ไม่กระทบกับพื้นที่ก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 (M82) สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว แต่มีน้ำท่วมบางช่วง จึงทำให้การจราจรติดขัดบางจุด และอยู่ระหว่างการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้สัญจร อย่างไรก็ตามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้แขวงทางหลวงสมุทรสาครนำเครื่องจักรขุดลอกวัชพืช เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ กระจายน้ำลงคลองใกล้เคียง (คลองท่าแร้ง กม.ที่ 40+000) พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยลดระดับน้ำที่ท่วมขังกระจายน้ำลงคลองใกล้เคียง (คลองสุนัขหอน กม.ที่ 45+960) รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำท่อซิ่ง ขนาด 12 นิ้ว บริเวณร่องกลางทางหลวง กม.ที่ 40+400 (คลองท่าเเร้ง กม.ที่ 40+000) ช่วยลดระดับน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงคลองท่าแร้ง ทำให้ระดับน้ำในช่วง กม.ที่ 41+000-42+100 ที่ท่วมขังไหล่ทางเริ่มลดลงแล้ว

นายกฤชนนท์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้จัดเรียงกระสอบทราย บริเวณคอสะพานเกตุมฯ กม.ที่ 42+600 ทั้งด้านขวาและด้านซ้ายทาง เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังที่ยังคงค้างช่องจราจร รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำพญานาค ดำเนินการสูบส่งลงคลองฯ และพื้นที่รับน้ำธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม และ ทล. ขออภัยในความไม่สะดวกในการเดินทาง โดยได้เร่งดำเนินการเพื่อให้การสัญจรไป-มาของประชาชนกลับมาปกติโดยเร็ว หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง).