เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.1) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเร่งรัดติดตามการดำเนินคดีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 และ ผู้แทน ผบ.ตร.ในคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท. ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ บช.สอท. นพ.ชยนันท์ สิทธิบุศย์ ผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.กล้าหาญ คล่องพยาบาล รอง ผอ.กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข ผกก.1 บก.สอท.2, พ.ต.อ.วรพล ยิ่งเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุภวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร บก.ตม.3, พ.ต.อ.สมชาย ขอค้า ผกก.สภ.โคกขาม, นายปฐม เอมโอษฐ์ ป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร, คณะผู้แทนของ สว.ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกันบุกทลายเครือข่ายค้าบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลางมูลค่ารวมเกือบ 2,000,000 บาท

พล.ต.ท.นิรันดร เปิดเผยว่า สืบเนื่องการขยายผลจากกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนจนทราบข้อมูลผู้ค้ารายใหญ่ โดยมีการนำบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากมาเก็บไว้ในพื้นที่สมุทรสาคร ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายค้นและได้นำกำลังเข้าจับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยเข้าตรวจค้น 1 จุด คือ ที่อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พื้นที่ หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จับกุมผู้ต้องหาชายสัญชาติจีน

โดยกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้า และบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า และซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560” พร้อมของกลางประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้าแบบบรรจุกล่องสำเร็จรูป ใช้แล้วทิ้ง 700 ชิ้น, สั่งผลิตบรรจุภัณฑ์ (กล่องเปล่า) และหัวพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้า มาบรรจุ, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้ารอบรรจุลงกล่อง 3,000 ชิ้น, หัวพอร์ตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารอบรรจุ 870 ชิ้น, เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมหัวพอร์ตบรรจุแล้ว 300 กล่อง, เครื่องซีล 1 เครื่อง มูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้น 4,870 ชิ้น ราคา 1,920,000 บาท

พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวอีกว่า การเข้าจับกุมในครั้งนี้ แม้จะได้ของกลางที่ไม่มากนัก แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการสกัดกั้นหรือตัดตอนกลุ่มเครือข่ายนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ เพราะผู้ต้องหารายนี้เป็นชาวจีน ซึ่งเป็นนายทุนที่มีการสั่งบุหรี่ไฟฟ้าและลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย อันจะนำไปสู่การมอมเมาเยาวชน ยิ่งรูปแบบลักษณะที่ตรวจค้นเจอในครั้งนี้ นับเป็นรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มเยาวชนที่อายุน้อยๆ ได้มากขึ้น จึงนับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศไทย