นายเผ่าภูมิ  โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในปีงบ 67 กรมสรรพสามิตได้ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายทั่วประเทศทุกช่องทางได้ 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.03%  คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,465.86 ล้านบาท โดยคดีส่วนใหญ่เป็นการทำผิดสุรา 15,974 คดี ค่าปรับ 150.69 ล้านบาท ค่าปรับประมาณการ 48.59 ล้านบาท แบ่งเป็นสุราในประเทศ 117,361 ลิตร และสุราต่างประเทศ 30,340 ลิตร รองลงมาเป็นยาสูบ 13,170 คดี  ประมาณการค่าปรับ 2,334 ล้านบาท แบ่งเป็นยาสูบในประเทศ 301,961 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 2,579,434 ซอง  น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 1,465 คดี ค่าปรับ 76.86 ล้านบาท ค่าปรับประมาณการ 11.41 ล้านบาท  

นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ 1,109 คดี ค่าปรับ 29.75 ล้านบาท ไพ่ 575 คดี ค่าปรับ 7.07 ล้านบาท ของกลาง 79,561 สำรับ รถยนต์ 268 คดี ค่าปรับ 27.89 ล้านบาท ของกลาง 269 คัน เครื่องหอมและเครื่องสำอาง 226 คดี ค่าปรับ 13.40 ล้านบาท ของกลาง 244,723 ขวด เครื่องดื่ม 216 คดี ค่าปรับ 5.84 ล้านบาท ของกลาง 108,259 ลิตร แบตเตอรี่ 210 คดี ค่าปรับ 13.78  ล้านบาท ของกลาง 89,059 ก้อน

“ภาพรวมการจับกุมที่สูงขึ้นมาจากการที่กรมสรรพสามิตได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกทุกช่องทาง อีกทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ สืบค้นการกระทำผิดช่องทางออนไลน์ ผ่านศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ และการร่วมกับหลายๆ หน่วยงานจับกุม ส่วนกรณีบุหรี่เถื่อนที่มีจำนวนมากนั้น นอกจากการปราบปรามแล้ว สรรพสามิตอยู่ระหว่างศึกษาปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ซึ่งจะมีการแถลงในการมอบนโยบายเร็วๆ นี้ เพื่อให้โครงสร้างบุหรี่ใหม่สนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจ และลดปัญหาบุหรี่ลักลอบ ตลอดจนจะนำระบบตรวจสอบติดตามและแกะรอยมาใช้ในบุหรี่ด้วย”

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การกระทำผิดบุหรี่เถื่อนพบมากขึ้นทางช่องทางออนไลน์ และเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมส่งมอบที่จุดร้านค้า ไปตามที่ศูนย์กระจายสินค้าหรือบริษัทขนส่งต่างๆ ซึ่งกรมฯได้นำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยปราบปราม พร้อมทั้งร่วมมือไปรษณีย์ไทย และขนส่งเอกชนเข้าจับกุม โดยบุหรี่เถื่อนส่วนใหญ่มีการลักลอบมาจากต่างประเทศทั้งทางบก และเรือ อีกทั้งยังพบขบวนการลักลอบนำบุหรี่ที่ผลิตในประเทศเพื่อการส่งออก กลับมาวนขายในประเทศเพื่อเลี่ยงการเสียภาษี ซึ่งปีที่ผ่านมาจับกุมได้มากกว่า 3 แสนซอง