เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภา เป็นประธานการประชุม ช่วงกระทู้ถามทั่วไป นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ได้ตอบข้อซักถามต่อประเด็นอัตรากำลังข้าราชการนักกายภาพบำบัด รวมถึงการกระจายอัตรากำลัง เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัยและการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตั้งถามโดย นายธัญธร ธนินวัฒนาธร สส.กทม. พรรคประชาชน ว่า จากสภาพปัญหาของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มสูงขึ้น และผู้ป่วยติดเตียง ที่ทำให้ต้องใช้งบประมาณดูแลรักษาทางตรงมากถึง 1.3 แสนล้านบาทต่อปี และต้องดูแลทางอ้อมถึง 1.5 ล้านล้านบาท จำเป็นต้องมีนักกายภาพบำบัดที่เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย และเตรียมพร้อมก่อนป่วย หลังตนเข้ารับตำแหน่งได้ผลักดันแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับบุคลากรในหน่วยงานโดยเฉพาะการปฏิรูปกำลังให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ทั้งนี้พบว่านักกายภาพบำบัด มีจำนวน 1.3 หมื่นคน โดย 1 คน ต้องดูแลผู้ป่วย 4,792 คน ขณะที่เป้าหมาย 10 ปี นักกายภาพหนึ่งคนต้องดูแลคน 2,000 คน จึงต้องเร่งผลิตให้ได้ 1.9 หมื่นคน แต่อาจจะไม่ทัน

“เรามีแผนที่จะต้องผลิตนักฟื้นฟูสุขภาพชุมชน อำเภอละ 1 คน เพื่อเป็นผู้ช่วยนักกายภาพชุมชน โดยใช้งบประมาณกองทุกฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ตระหนักถึงปัญหาและสั่งการให้เร่งดูแล และในเดือน ต.ค.นี้ นายกฯ จะลงพื้นที่เพื่อดูงานส่วนงานแคร์กีฟเวอร์เพื่อดูแลผู้สูงอายุ และศึกษาดูงานผู้ป่วยเอ็นซีดี นอกจากนั้นแล้วยังมีนโยบายที่จะยกระดับ อสม. ในเรื่องดังกล่าวและให้ค่าตอบแทนเป็นขวัญกำลังใจ” นายสมศักดิ์ ชี้แจง

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า สำหรับค่ารักษาพยาบาลในสิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่รองรับค่าบริการ ผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง บาดเจ็บไขสันหลัง บาดเจ็บทางสมอง และกระดูกข้อสะโพกหักในผู้สูงอายุ สามารถรับค่าบริการกายภาพบำบัดครั้งละ 450 บาท ไม่เกิน 20 ครั้งต่อราย กรณีรับบริการที่บ้าน สปสช. จะจ่ายเพิ่มเติมตามเป็นจริงไม่เกิน 200 บาทต่อครั้ง สิทธิข้าราชการสามารถเบิกได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วใน รพ.ต้องมีศูนย์ฟื้นฟู ขณะเดียวกันในแต่ละภูมิภาคต้องมี รพ.เฉพาะทาง โดยขณะนี้มีแล้ว 1 แห่ง ที่ จ.ลำปาง ส่วนภูมิภาคอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ

นายสมศักดิ์ ยังได้ตอบกระทู้ถามทั่วไปในประเด็น ปัญหา รพ.ไม่เพียงพอต่อสัดส่วนการใช้บริการของประชาชนใน กทม. ซึ่งตั้งถามโดย นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม.พรรคประชาชน โดยย้ำถึงการพัฒนาระบบสาธารณสุข และสร้าง รพ.ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้บริการของประชาชน หลังจากที่รัฐบาลประกาศนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่แต่การดำเนินการดังกล่าวยอมรับว่าต้องใช้เวลา.