เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่รัฐสภา นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ถึงการตรวจสอบรถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ที่เกิดเพลิงไหม้ทำให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิตหลายรายว่า วันนี้ได้รายงานชี้แจงการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ว่ามีอะไรในตัวรถบัสที่บกพร่องบ้าง ทั้งนี้ ได้รายงานข้อเท็จจริงให้ กมธ.รับทราบ รวมถึงมาตรการดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และมาตรการที่ใช้กำกับดูแลป้องกันเหตุในลักษณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยเป็นลักษณะข้อเท็จจริง

นายจิรุตม์ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสภาพรถนั้น ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการขนส่งทางบก ได้สํารวจพื้นที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่รายละเอียดจากการสอบสวน ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหรือหลัง ขออนุญาตให้อยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในกรณีนี้ ทั้งผู้ประกอบการ เจ้าของรถ ผู้ขับรถ วิศวกรผู้ตรวจสอบการทดสอบถังแก๊ส รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบของ จ.สิงห์บุรี ตอนนี้ได้ดำเนินการในเบื้องต้นกับผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ทั้งนี้ ได้มีการพักใช้ใบอนุญาตของผู้ประกอบการ ทําให้ไม่สามารถดำเนินกิจการขนส่งสาธารณะได้ ในระหว่างการสอบสวน ส่วนผู้จัดการด้านความปลอดภัย ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยรายวันของบริษัท ก็ได้พักใช้ใบอนุญาต และใบรับรองของผู้จัดการด้านความปลอดภัย

นายจิรุตม์ กล่าวว่า ส่วนวิศวกรผู้รับรองการทดสอบถังแก๊ส ขณะนี้รับรองใบอนุญาต ทำให้ไม่สามารถดำเนินงานกิจการนี้ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทดสอบถังแก๊ส และตรวจสอบตัวรถ ขณะนี้ได้ดำเนินการโยกย้ายให้ออกจากพื้นที่ มาช่วยราชการที่กรมการขนส่งฯ และได้ส่งคณะกรรมการสอบสวน เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ ทั้งนี้ กระบวนการเกิดขึ้นก่อนหลังนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะไปดำเนินการต่อ อีกทั้งสิ่งที่พบและสำคัญที่สุด คือถังแก๊สตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ซึ่งรถคันเกิดเหตุ ได้แจ้งจดทะเบียนว่ามีถังแก๊ส 6 ถัง แต่ทางพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบดูแล้ว มีความเห็นตรงกันว่า มีถังแก๊สเกินกว่าที่จดทะเบียนไว้ 5 ถัง โดยต้องมีการสอบสวนต่อไปว่าเกินมาได้อย่างไร ช่วงเวลาใด และใครเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น ต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการในเรื่องนี้

เมื่อถามถึงกรอบเวลาในการสอบสวน นายจิรุตม์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะเป็นผู้ดําเนินการสืบสวนทั้งหมด ทั้งสาเหตุในการเกิดเหตุ และหลักฐานต่าง ๆ ที่ปรากฏ แต่ในส่วนของกรมการขนส่งฯ  ต้องสอบสวนวิธีปฏิบัติของผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน ว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่วางไว้หรือไม่ เพราะหลักเกณฑ์ของกรม มีวิธีปฏิบัติทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ของกรม ต้องตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของกรมให้หมด ว่าที่ดำเนินการไปนั้น ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทั้งหมดหรือไม่

เมื่อถามอีกว่าได้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อตรวจสอบบ้างหรือไม่ นายจิรุตม์ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องวิธีปฏิบัติหลักเกณฑ์ ว่ามีใครหละหลวมตรงไหน และกำหนดให้รายงานภายใน 2 สัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องการสอบสวนเป็นเรื่องของคดีอาญา เมื่อถามย้ำว่าถ้าพบว่าเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกมีส่วนรู้เห็นในการดัดแปลงรถ จะมีความผิดถึงขั้นใด นายจิรุตม์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ขอให้เป็นเรื่องของการสอบสวน