นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า เดิมเราคาดการณ์ไว้ว่าจีดีพีจะโตที่ร้อยละ 2.6-2.7 อยู่แล้ว หากไม่มีเม็ดเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นการที่มีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทของรัฐบาล จะส่งผลทำให้เศรษฐกิจโตขึ้น 0.3% และผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจยาวไปถึงต้นปี 68 จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยเติบโตมากกว่า 2.7% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้

ส่วนเศรษฐกิจในปีหน้านั้น มีทิศทางที่ดีของการเติบโตที่ดีต่อเนื่องไปจากในปีนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมาเรามีมาตรการเศรษฐกิจต่างๆ และยังใส่เงินลงไปเพิ่มเติมจากการแจกเงินหมื่นบาทกว่า 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งลงไปครั้งเดียวและทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และประชาชนที่มีรายได้น้อย เกิดผลกระทบลากยาวไปถึงไตรมาส 1 ปี 68 และอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม ส่วนในระยะยาว ต้องเร่งดึงดูดนักลงทุน การทำโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีในระบบ ซึ่งทุกอย่างต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน และพยายามจะผลักดันให้จีดีพีโตถึง 3%

สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนั้น มีแน่นอน แต่อาจออกมาในรูปแบบมาตรการทางภาษี และกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่โครงการคนละครึ่งแบบที่ผ่านมาแน่นอน ขณะที่มาตรการภาษีที่พิจารณา เช่น การซื้อของและให้ลดหย่อนภาษีนั้น อยู่ในการพิจารณา เพราะถ้าหากพูดไปก่อนกลัวว่าจะมีการชะลอใช้จ่ายช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ได้ แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลมีอาวุธในมือ และเตรียมออกช่วงปลายปีนี้