สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า เพียงหนึ่งวันหลังนายมิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหา “หนี้สินมหาศาล” ของฝรั่งเศส ผ่านการลดการใช้จ่าย และการเก็บภาษีใหม่ อาร์ม็องกล่าวว่า ผู้ที่มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลาง จะไม่ต้องแบกรับภาระทางการเงินเพิ่มเติม

แหล่งข่าวของรัฐบาลปารีส ระบุว่า ฝรั่งเศสจะปรับปรุงสถานการณ์ทางการเงินของประเทศ ด้วยเงินประมาณ 60,000 ล้านยูโร (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) ในปี 2568 โดยหวังว่าจะทำให้การขาดดุลภาครัฐอยู่ที่ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.1% ของจีดีพี ในปีนี้

อนึ่ง จำนวนเงิน 60,000 ล้านยูโร จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เงินประมาณ 40,000 ล้านยูโร (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) ที่มาจากการลดการใช้จ่าย และเงินอีก 20,000 ล้านยูโร (ราว 727,000 ล้านบาท) จากรายได้ใหม่

“เมื่อเราสามารถลดการใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญแล้ว ผู้ที่มีรายได้สูงมาก จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติมเป็นการชั่วคราว ส่วนระดับภาษีเงินได้ของผู้ที่ไปทำงานทุกวัน จะไม่เปลี่ยนแปลง” อาร์ม็อง กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทขนาดใหญ่และขนาดใหญ่มาก จะถูกเรียกเก็บภาษีมากขึ้นเช่นกัน แต่ภาระพิเศษข้างต้นจะไม่คงอยู่นานหลายปี

ทั้งนี้ บาร์นิเยร์ กล่าวในการแถลงนโยบายสำคัญครั้งแรกต่อรัฐสภาฝรั่งเศส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ขณะนี้รัฐบาลปารีส พยายามบรรลุเป้าหมายเพดานการขาดดุลของสหภาพยุโรป (อียู) ที่ 3% ของจีดีพี ในปี 2572 ซึ่งช้ากว่าที่วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ถึง 2 ปี.

เครดิตภาพ : AFP