ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์เทพธาโร ต.บ้าหวี อ.หาดสำราญ จ.ตรัง มีชาวบ้านที่เจ็บป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์อัมพาตและโรคกระดูกทับเส้น มาขอให้พระปราโมทย์ นรินทร์โท เจ้าสำนักสงฆ์เทพธาโร ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยดังกล่าว โดยใช้ศาสตร์ของการเหยียบไฟตามภูมิปัญญาท้องถิ่นทางภาคอีสาน ที่ต้องก่อเตาถ่านเพื่อเผาเหล็กผานหรือเหล็กใบผานที่ใช้สำหรับไถนา ลักษณะคล้ายเตารีดและมีขนาดเท่ากับฝ่าเท้าเผาให้ร้อนจัดจนออกสีส้มแดง ก่อนใช้เท้าแตะน้ำมันสมุนไพร ซึ่งมีส่วนผสมหลัก เช่น หัวไพล เหง้าว่านไฟ กลอยหัวเหลือง กลอยหัวขาว ขมิ้น น้ำมันงา และน้ำมันมะพร้าว จากนั้นจึงใช้เท้าแตะแผ่นเหล็กที่ร้อนจัด ก่อนจะเหยียบผู้ป่วยตรงบริเวณจุดที่มีอาการเจ็บปวด โดยบางจังหวะมีไฟลุกขึ้นมาจากแผ่นเหล็ก มีเสียงและควันพวยพุ่งออกมา แสดงว่าแผ่นเหล็กร้อนจัดจนได้ที่

โดยมีความเชื่อว่าความร้อนจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ขดงอ ทำให้เลือดลมเดินไม่สะดวก สามารถคลายออกทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวและคลายความเจ็บปวดลงได้ คล้ายกับการแช่น้ำร้อนหรือการประคบร้อน ซึ่งศาสตร์แขนงนี้กำลังจะสูญหายไปเนื่องจากหาคนสืบทอดได้ยาก ซึ่งแต่ละคนอาการเจ็บป่วยไม่เท่ากัน บางคนใช้เวลารักษาเพียงไม่กี่วัน แต่บางคนอาจใช้เวลานานหลายเดือน ระยะเวลาการเหยียบน้ำมันแต่ละคนตั้งแต่ 40-60 นาที

พระปราโมทย์ กล่าวว่า อาตมาเคยพาโยมแม่ที่ป่วยด้วยโรคอัมพาตไปรักษากับพระอาจารย์รูปหนึ่ง โดยสมัยนั้นการเดินทางยากลำบาก ทำให้พระอาจารย์ สอนวิธีการรักษาให้เพื่อจะได้ไม่ต้องพาโยมแม่เดินทางไกล รักษาอยู่นานถึง 6 ปี โยมแม่ก็หายเป็นปกติ ต่อมาได้บวชเป็นพระและย้ายมาจำพรรษาที่ จ.ตรัง นานกว่า 15 พรรษาแล้ว แต่ไม่เคยรักษาให้ใคร จนกระทั่งนึกสงสารชาวบ้านที่เจ็บป่วยและเดินทางเข้าวัดอย่างทุลักทุเล จึงตัดสินใจรักษาให้วันละคนเท่านั้น คิดค่าครูคนละไม่เกิน 20 บาท เพื่อนำเงินไปบูรณะซ่อมแซมสำนักสงฆ์ที่ทรุดโทรม

ทางด้านนายเวทิน มลยงค์ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.บ้าหวี ซึ่งป่วยด้วยโรคกระดูกทับเส้นมานานกว่า 20 ปีได้เข้ารับการรักษาจากพระปราโมทย์จนอาการดีขึ้น กล่าวว่า ตนป่วยด้วยโรคนี้มานานเกือบ 20 ปี ไปหาหมอมาหลายแห่งจนสิ้นหวังและปล่อย ไม่รักษาแล้ว โดยมีอาการขาเริ่มเล็กลีบ กล้ามเนื้อลีบตั้งแต่โคนขา น่อง และชาปลายนิ้วเท้า แต่พอเหยียบไปได้ 5 มื้อ ก็รู้สึกว่าเริ่มทุเลาลง จึงไม่ได้เหยียบต่อเนื่องเพราะอาจารย์มีคนไข้ที่หนักกว่า เลยให้เขาเหยียบไป แต่ศาสตร์นี้ตนดูว่าทางหมอหลวงคงไม่ยอมรับ แต่นี่เป็นแบบโบร่ำโบราณจากภาคอีสาน ซึ่งอาจารย์เล่าให้ฟังว่า เคยเหยียบแม่ที่ป่วยติดเตียงจนสามารถลุกขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้ แต่รับคนไข้ได้ไม่มาก เพราะคนไข้ที่รักษา กินเวลาประมาณ 2 ชม. แต่ละวันจะรับคนไข้ได้คนเดียวเท่านั้น ส่วนค่าครูไม่ได้กะเกณฑ์แล้วแต่จะให้ เพื่อนำไปซื้อสมุนไพรและอุปกรณ์ต่าง ๆ