สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่ด้วยมลพิษ ฝุ่นควัน และสารพัดเชื้อโรคในปัจจุบัน การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง จึงดูเหมือนเป็นเรื่องยากขึ้นไปทุกที โดยเฉพาะคนในวัยทำงานที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ และเต็มไปด้วยความเครียด ทำให้มักจะละเลยการเอาใจใส่ดูแลสุขภาพ และไม่สังเกตเห็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่บ่งบอกว่าปัญหาสุขภาพได้เริ่มมาเยือนแล้ว การตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาปัญหาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเป็นการตรวจร่างกายในภาวะที่ร่างกายเป็นปกติ ยังไม่มีอาการของโรคอย่างชัดเจน มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อระบุปัจจัยเสี่ยงและภาวะผิดปกติต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงแนวทางป้องกันการเกิดโรคร้ายแรง
โรงพยาบาลรามคำแหง ได้ให้ข้อมูล **สัญญาณเตือนของร่างกายแบบไหน ที่ควรไปตรวจสุขภาพ? สัญญาณเตือนของร่างกาย ที่ควรไปตรวจสุขภาพ มีดังนี้
- นอนหลับยาก หรือมีอาการกระสับกระส่ายเวลานอนติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือรู้สึกเหนื่อยแต่นอนไม่หลับ
- ผิวพรรณเหี่ยวแห้ง หรือมีผื่นคัน เกิดจากการที่น้ำในผิวหนังชั้นกำพร้าลดลง อาจมีอาการคัน เป็นผื่นแดง ผิวหนังหยาบกร้าน ทายาแล้วอาการไม่ดีขึ้น
- ปวดหัวเรื้อรัง ปวดหัวเรื้อรัง สังเกตได้เมื่อมีอาการปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือทานยาแก้ปวดติดกันแล้วอาการไม่ดีขึ้น โดยบางรายอาจพบอาการอื่นร่วมด้วยเช่น คลื่นไส้ หรืออาเจียน เป็นต้น
- ตัวเหลือง หรือตาเหลือง ตัวเหลือง หรือตาเหลืองสังเกตได้เมื่อสีผิวบนร่างกายมีสีเหลืองผิดปกติจากเดิม โดยเฉพาะถ้าหากบริเวณตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างเห็นได้ชัด
- ระบบขับถ่ายไม่ปกติ ระบบขับถ่ายไม่ปกติ สังเกตได้เมื่ออุจจาระมีลักษณะผิดปกติ หรือมีอาการท้องเสีย หรือท้องผูกบ่อย หรือเป็นสลับกัน แม้ว่าจะรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาดก็ตาม หรือมีอาการเกิดขึ้นต่อเนื่อง รับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น
- เบื่ออาหาร เบื่ออาหาร สังเกตได้เมื่อไม่อยากอาหาร ทานอะไรก็ไม่อร่อยเหมือนเดิม ลิ้นไม่รับรส หรือรับประทานอาหารได้น้อยลง อาจมีอาการท้องอืดหรือคลื่นไส้ร่วมด้วย
- ปวดเรื้อรัง อาการปวดเรื้อรัง คือ อาการปวดหลัง ปวดเอว ปวดต้นคอ หรือส่วนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่า 15 วันต่อเดือน และมักมีอาการปวดติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน
- น้ำหนักขึ้น-ลงผิดปกติ ภาวะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือลดลงผิดปกติแบบไม่ทราบสาเหตุ สังเกตได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง 5-10% ของน้ำหนักเดิมภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนทั้งที่ปฏิบัติตัวตามปกติ
- เป็นเหน็บชา หรือตะคริวบ่อยๆ การเป็นตะคริวหรือเหน็บชา อาจเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อส่วนใดของร่างก็ได้ หรือในบางรายที่มีอาการรุนแรง มักพบในเวลากลางคืนจนต้องสะดุ้งตื่น
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อย ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย นอนพักแล้วก็ยังไม่รู้สึกสดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่า
- ปัสสาวะผิดปกติ ปัสสาวะผิดปกติ คือเมื่อมีอาการปัสสาวะขัด ปัสสาวะสีเข้มมาก ปัสสาวะมีมดขึ้น หรือปัสสาวะเป็นเลือด
- ระคายคอ เจ็บคอ หรือไอเป็นประจำ มีอาการระคายคอ เจ็บคอ หรือไอเป็นประจำ โดยปกติหากเป็นหวัด อาการต่างๆ เหล่านี้มักดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ควรสังเกตตัวเองหากอาการยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพบความลำบากในการเปล่งเสียงหรือส่งผลต่อการรับประทานอาหาร
- มีอาการหลงลืมเป็นประจำ มีอาการหลงลืมเป็นประจำ โดยอาจเริ่มด้วยอาการหลงลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน แต่ความจำระยะยาวยังคงปกติ มักชอบถามซ้ำ หรือเริ่มมีปัญหาในการคิดคำนวณ
สัญญาณเตือนจากร่างกาย บอกโรคอันตรายอะไรได้บ้าง?
อาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น นับเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงความไม่สมดุลในร่างกาย แม้โดยส่วนใหญ่ มักเป็นอาการของโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่หากพบว่ามีอาการเข้าข่าย ก็ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจร่างกายโดยละเอียด เพราะหลายโรคนั้น อาจมีความจำเป็นที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคต่างๆ ดังนี้ โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง โรคเนื้องอกในสมอง โรคตับอักเสบ โรคในระบบทางเดินอาหาร โรคไต โรคตับ วัณโรค โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคดีซ่าน โรคมะเร็ง
อยากดูแพคเกจการตรวจของโรงพยาบาลรามคำแหง กดดูได้ที่ลิงค์ https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/2391