น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 หรือมาตรการส่งดี (Dee – Delivery) เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคถูกหลอกลวง

ทั้งนี้ที่ผ่านมาผู้บริโภคมีการจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางมากขึ้น เพราะสะดวกสบายแค่มีเพียงโทรศัพท์เครื่องเดียว ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจบางรายหวังใช้ช่องทางนี้เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค เช่น ส่งสินค้าไม่ตรงปก มีสินค้าไปส่งแล้วเรียกเก็บเงินโดยผู้รับไม่ได้สั่ง ไม่ได้รับสินค้า สินค้าที่ได้รับมีความชำรุดบกพร่อง สินค้าสูญหาย ไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้หากเก็บเงินปลายทาง เมื่อผู้บริโภคได้ชำระเงินให้กับผู้ส่งสินค้าแล้วเกิดปัญหาต้องการที่จะขอเงินคืน ปรากฏว่าผู้ให้บริการขนส่งสินค้าได้นำเงินไปจ่ายให้กับผู้ขายสินค้าไปแล้ว และผู้บริโภคไม่สามารถติดต่อไปยังผู้ขายสินค้าได้ และไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา

​น.ส.จิราพร กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว และมอบหมายให้  สคบ. ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567  จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ต.ค. 2567 เป็นการแก้ไขปัญหาผู้ขายสินค้าที่ไม่สุจริต หลอกลวงผู้บริโภค คุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกิดความเสียหายจากการสั่งซื้อสินค้าและรับบริการขนส่งจากผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งผู้บริโภคจะได้รับการชดเชยเยียวยาความเสียหายด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม

ซึ่งจากประกาศฉบับนี้ เมื่อผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง พนักงานขนส่งจะต้องลงชื่อในหลักฐานการรับเงิน และส่งมอบให้กับผู้บริโภค หากเปิดกล่องสินค้าแล้วสินค้าไม่ตรงปก ชำรุด ไม่ได้สั่ง สามารถปฏิเสธการรับสินค้าและไม่ต้องชำระเงินได้ หรือหากผู้บริโภคเปิดกล่องสินค้าภายหลังจากที่ชำระเงินไปแล้วพบปัญหา สินค้าไม่ตรงปก ชำรุด ไม่ได้สั่ง ต้องแจ้งขอเงินคืนภายใน 5 วัน (นับแต่วันได้รับสินค้า)

นอกจากนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่า มีเหตุตามที่แจ้งจริง บริษัทขนส่งจะต้องคืนเงินทั้งหมดให้กับผู้บริโภค ภายใน 15 วัน ซึ่ง สคบ. ได้เปิดเวทีหารือร่วมกันกับผู้ประกอบการขนส่ง ทำให้เกิดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน และผู้ประกอบการขนส่งยินดีร่วมมือและสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับ สคบ. เพื่อให้ประกาศฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามได้ที่สายด่วน สคบ. 1166 แอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือ เว็บไซต์ www.ocpb.go.th