นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ณ ตำแหน่งวงโคจร 50.5, 51 และ 142 องศาตะวันออก ที่ยังประมูลไม่ออก ได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยทางสำนักงาน กสทช. โดยเป็นการจัดสรรสิทธิฯ ในลักษณะ “โดยตรงแบบเปิดกว้าง” หรือ โอเพ่น ไดเร็ก อวอร์ด ที่เป็นการผสมผสานระหว่างแนวทางการจัดสรรโดยตรง (ไดเร็ก อวอร์ด) และการจัดสรรแบบเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อเสนอ (บิวตี้ คอนเทสต์) แทนการ “ประมูลแบบเคาะราคา” ซึ่งจะเปิดให้ยื่นคำขอรับอนุญาตวันที่ 7 ต.ค. นี้ และตรวจสอบคุณสมบัติ และข้อเสนอของผู้รับใบอนุญาต วันที่ 7-10 ต.ค. จากนั้นคณะกรรมการประเมินและเจรจาต่อรองข้อเสนอของผู้ได้รับใบอนุญาต วันที่ 11 ต.ค. จากนั้นคณะกรรมการจะเสนอผลการตรวจสอบคุณสมบัติและผลการตัดสินให้ กสทช. พิจารณาในวันที่ 16 ต.ค. และจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตได้  17 ต.ค. นี้

“การจัดสรรสิทธิครั้งนี้ กสทช. มุ่งรักษาสิทธวงโคจรดังกล่าวของประเทศไว้ โดยวงโคจร 50.5 ที่จะครบกำหนดในวันที่ 27 พ.ย. โดยยังมั่นใจว่า จะมีเอกชนเข้ามายื่นขอใช้สิทธิ โดยเฉพาะในวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก ที่พื้นที่ให้บริการในตะวันออกกลาง ที่มีศักยภาพที่จะดำเนินธุรกิจได้”

นายสมภพ กล่าวต่อว่า สำหรับสาระสำคัญในการให้สิทธิในใบอนุญาต อาทิ อนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมตามตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม โดยจะไม่จัดชุดของข่ายงานดาวเทียมที่จะนำมาอนุญาตสิทธิ และไม่กำหนดราคาขั้นต่ำและใช้วิธีการอนุญาตโดยพิจารณาเปรียบเทียบจากข้อเสนอของผู้ขอรับอนุญาต ตามเกณฑ์การพิจารณาอนุญาต เช่น ความพร้อมในการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม กำหนดน้ำหนักเท่ากับ 40% ประสบการณ์ในการประกอบกิจการหรือดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้อง  กำหนดน้ำหนักเท่ากับ 25%

และความสามารถด้านการเงินและข้อเสนอการวางหลักประกันการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม กำหนดน้ำหนักเท่ากับ 20% ส่วนข้อเสนออัตราผลตอบแทนให้แก่รัฐ กำหนดน้ำหนักเท่ากับ 15% และข้อเสนออัตราผลตอบแทนให้แก่รัฐ ไม่น้อยกว่า 0.25% ผู้ได้รับอนุญาตมีหน้าที่จัดให้มีดาวเทียมเป็นของตัวเอง หรือดำเนินการอื่นใดเพื่อรักษาสิทธิขั้นสมบูรณ์ตลอดระยะเวลาการอนุญาต