จากนั้นเวลา 15.07 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อมายังศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งใช้เป็นศูนย์บัญชาการสถานการณ์ชั่วคราวเพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจเด็กนักเรียนและครูที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากปัญหาการจราจรที่ติดขัด ทำให้นายกรัฐมนตรีลงจากรถเพื่อเดินข้ามสะพานลอยไปยังศูนย์ประสานงานฯ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ซึ่งมาบัญชาการ สถานการณ์อยู่ก่อน แล้วรอต้อนรับ ทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางถึง ผบ.ทสส. ได้รายงานสถานการณ์ การดูแลเด็กนักเรียนและครูที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และเตรียมส่งตัวกลับจังหวัดอุทัยธานี ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าไปเยี่ยมเด็กและครู โดยภายหลังเยี่ยมและให้กำลังใจ ซึ่งนายกฯ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ต้องให้กำลังใจ”

ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รายงานนายกรัฐมนตรีว่า ในส่วนของ พม. มีเจ้าหน้าที่ เข้ามาดูแลแต่ละครอบครัว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามว่ามีจิตแพทย์ด้วยหรือไม่ และมีเพียงพอหรือไม่ โดยนายวราวุธ กล่าวว่า มีทั้งแพทย์และทีมสหวิชาชีพ ที่มาจากอุทัยธานี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และชัยนาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้จัดทีมแพทย์คอยดูแลสภาพจิตใจทั้งเด็กและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ใช่เฉพาะรถคันที่เกิดเหตุ แต่รวมถึงรถที่มาในคณะทั้งหมด เนื่องจากบางคนเป็นพี่น้องกัน โดยให้แยกดูแลระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงครอบครัวที่จังหวัดอุทัยธานีด้วย และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงรายละเอียดของเหตุการณ์ และให้กระทรวงคมนาคม ดูแลส่งกลับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินขึ้นสะพานลอย เพื่อมาขึ้นรถที่จอดอยู่ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เพื่อเดินทางกลับ

ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ซึ่งเกาะติดสถานการณ์อยู่ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดอุทัยธานี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อรอรับครูและนักเรียนในการให้ความดูแลต่อไป.