เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้มีการประชุมผ่านระบบซูมจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มส่วนหน้า (ศปช.ส่วนหน้า จ.เชียงราย) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรายงานเรื่องการฟื้นฟู แต่ขณะนี้ จ.เชียงราย มีฝนตกอย่างหนักซึ่งจะมีส่วนช่วยชะล้างโคลนและฝุ่นละออง แต่ในพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำนั้น ขอให้มีการเฝ้าระวังเรื่องระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายกฯ สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องสายไฟฟ้า เพราะมีการเดินสายเมนแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องเร่งเดินสายรองที่จะวิ่งเข้าบ้านเรือนประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ทุกบ้าน รวมถึงน้ำประปาก็ให้เร่งดำเนินการเช่นกัน อีกทั้งสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มการส่งนักจิตวิทยาไปให้กำลังใจและสอบถามเรื่องราวต่างๆ จากประชาชนที่อาจมีเรื่องวิตกกังวล พร้อมกับสั่งการเตรียมยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ ยาป้องกันน้ำกัดเท้า อีเอ็มบอลที่จะช่วยลดเรื่องน้ำเน่าเสีย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข และที่ประชุมรับทราบไปดำเนินการ
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชนั้น ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรฯ เสนอขอผ่อนผันให้ส่วนราชการต่างๆ เข้าไปแก้ไขปรับปรุงในพื้นที่ อาทิ กรณีไม้ล้มในพื้นที่อุทยาน ซึ่งปกติใครเข้าไปเคลื่อนย้ายหรือไปตัดต้นไม้ ท่อนไม้ จะถือว่ามีความผิด จึงจะมีการผ่อนผันหน่วยงานราชการ และภาคเอกชนให้เข้าไปดำเนินการได้ เพื่อลดขั้นตอนในการเข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่ของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ หรือแม้กระทั่งพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับลุ่มน้ำต่าง ๆ
นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรฯ เสนอแผนที่และบัญชีแผนที่ที่มีโอกาสเกิดดินถล่มในประเทศไทย และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปพิจารณาเพื่อการป้องกันเฝ้าระวัง ซึ่งมีทั้งหมด 54 จังหวัด เช่น จ.เชียงใหม่ ตาก แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี เชียงราย ลำปาง และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น