พบว่า คะแนนนิยมของ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 คะแนนนำ “เสี่ยเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และ สส.บัญชีรายชื่อ ที่ตามมาเป็นลำดับที่ 2

โดย “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี  ออกมาระบุว่า ”นายกฯขอบคุณทุกกำลังใจ ผลโพลครั้งนี้เป็นกำลังใจในการทำงานของทุกคนในรัฐบาล และย้ำเตือนว่าช่วงเวลานี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการพิสูจน์ตนเอง แม้ประชาชนยอมรับการทำงานของนายกรัฐมนตรีและนโยบายรัฐบาลก็ตาม แต่รัฐบาลก็ยังจะต้องมุ่งมั่นที่จะทำงานหนัก เพื่อะแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากขึ้นต่อไป“

แน่นอนว่าบททดสอบภาวะผู้นำ ความพร้อมที่จะเป็นผู้นำประเทศในการพยายามที่จะแก้ไขปัญหาของ “มาดามแพทองธาร” ด่านแรกจากผลโพลถือว่าสอบผ่าน ถือว่าลบคำสบประมาทได้เปราะหนึ่ง แต่ถูกจับตามองทุกฝีก้าว และเข้มข้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะถูกมองตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็น “ลูกเถ้าแก่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีต้องเจอกับบททดสอบที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเรื่อง “ภาวะผู้นำ” และวุฒิภาวะมาพร้อมๆ กันหลังจากนี้

ทั้งสารพัดปัญหาดอกใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาทั้งสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมทางภาคเหนือ ที่ภายหลังน้ำลดต้องมีมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูตามมา ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมาก ยังไม่รวมปัญหาทางเศรษฐกิจรอบโลกที่บีบรัดเข้ามาภายหลังธนาคารกลางของสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ย เป็นปัญหาส่งผลกระทบกับประเทศไทย อาจมีความเสี่ยงต่อความผันผวนของตลาดเงิน ภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงการลงทุนจากต่างประเทศ และการส่งออกสินค้า

เอาเป็นว่าแต่ละเรื่องล้วนประดังเข้ามาทำลายภาพลักษณ์ และ “ภาวะผู้นำ“ ของนายกฯทั้งสิ้น แม้ผลโพลคะแนนพุ่งนำฝั่งตรงข้าม แต่ไม่ควรประมาทหากไม่มีการทำการบ้านและเตรียมความพร้อมรับมือให้ดี อาจจะเกิดข้อผิดพลาดจนยากจะแก้ไขก็ได้ เพื่อไม่ให้หมากเกมนี้พังพาบทั้งกระดาน จึงมีหลายเรื่องที่ต้องคิดรอบคอบ ทีมงานเพื่อไทย มหากุนซือ “อดีตนายกฯทักษิณ” มีบทเรียนผลีผลามจนพังมาแล้ว ฉะนั้นในจังหวะรัฐบาลเพื่อไทยซีซันใหม่ เพิ่งเริ่มต้นตามใบงาน ต้องระวังเช็กสถานการณ์ให้ถ้วนถี่

เท่าที่จับสัญญาณ “นายกฯอิ๊งค์” โดนรับน้องตั้งแต่ก้าวเข้าทำเนียบฯ สู่ตึกไทยคู่ฟ้า ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนรุมเร้าทันที เส้นทางวิบากอันตรายรายล้อม เต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยง แม้จะมีทีมกุนซือระดับมือพระกาฬ โคตรเซียนค่อยช่วยแก้ปัญหาอยู่เบื้องหลัง แต่บททดสอบก็มาเป็นละลอกต่อเนื่องกันแบบไม่พัก นี่เพียงแค่เริ่มต้น รัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน ทำให้เห็นว่าหนทางข้างหน้าหนักเอาการเลยทีเดียว.