เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ก.ย. นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีเหตุคาร์บอมบ์ใน ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ก.ย.) ว่า มีการรายงานให้รับทราบในเบื้องต้นแล้ว
เมื่อถามว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ เนื่องจากเริ่มเกิดเหตุถี่ขึ้นในปัจจุบัน นายฉัตรชัย กล่าวว่า มีหลายเหตุปัจจัยประกอบกัน แต่อาจจะเป็นการก่อเหตุต่อเนื่องจากเหตุที่ผ่านมา พร้อมกับมองว่าเป็นช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงทั้งฝ่ายรัฐบาล ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะมีการเปลี่ยนถ่ายผู้ที่มีตำแหน่งใหม่เข้าไปในพื้นที่ จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งในวงรอบ
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะพูดคุยหรือไม่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นแนวคิดเช่นนั้นหรือไม่ แต่เชื่อว่าเป็นการดำรงความต่อเนื่องในพื้นที่ก่อเหตุ เพื่อให้รู้ว่ายังมีตัวตนอยู่ และยังต้องการขับเคลื่อนเป้าหมายบางอย่างอยู่
เมื่อถามถึงการก่อเหตุปล้นปืนที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส นั้น นายฉัตรชัย ตั้งข้อสังเกตว่า บริเวณดังกล่าวไม่ค่อยมีเหตุเกิด และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นการแสดงเชิงสัญญลักษณ์หรือไม่ เนื่องจากอาวุธที่ปล้นไปเป็นปืนลูกซอง ไม่ใช่อาวุธสงคราม จึงต้องมีการตรวจสอบต่อไป ว่าเป็นความขัดแย้งภายใน เนื่องจากอาจเชื่อมโยงกับหลายส่วน พร้อมกับยอมรับว่ามีชุดข้อมูลที่ระบุถึงความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับคนในเป็นคนชี้เป้าให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาในพื้นที่ โดยจะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
ส่วนที่มีการสะท้อนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงมีความจำเป็นต่อผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่นั้น นายฉัตรชัย กล่าวว่า จะคงยึดหลักการพิจารณาเป็นรายพื้นที่ไป ซึ่งต้องดูจากหลายอย่างทั้งสถิติการก่อเหตุ และหลายปัจจัยประกอบกัน แต่จะใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อยับยั้งและตรวจสอบไม่ให้เกิดเหตุ แต่อย่างที่ทราบ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะยกเลิกการประกาศบังคับใช้ในอนาคต แต่ขณะนี้ยังมีเหตุจึงยังต้องประกาศใช้อยู่
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในปี 2570 นั้น นายฉัตรชัย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบ หากบรรยากาศการพูดคุยดีขึ้น และการก่อเหตุลดลงก็อาจจะมีการยกเลิก โดยใช้วิธีการค่อยๆ ปรับลดไป