สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่า กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ในหลายพื้นที่ของประเทศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 105 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 359 คน
ขณะที่แถลงการณ์ของกองทัพอิสราเอลระบุว่า การโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำลายเป้าหมายราว 120 แห่ง และภารกิจโจมตีเป้าหมายในเลบานอนยังคงต้องดำเนินต่อไป “เพื่อลดระดับภัยคุกคาม” จากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกเหนือจากการสังหารนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในกรุงเบรุต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปฏิบัติการทางทหารในวันดังกล่าว ยังสามารถสังหารแกนนำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้อีกประมาณ 20 ราย
ด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) รายงานว่า ปฏิบัติการโจมตีทางทหารของกองทัพอิสราเอลที่ทวีความรุนแรงอย่างชัดเจน ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 700 ราย ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 200,000 คน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศ และอีกมากกว่า 70,000 คน เลือกที่จะอพยพข้ามพรมแดนไปยังซีเรีย
ส่วนโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการมอบความช่วยเหลือด้านอาหาร เป็นกรณีฉุกเฉินและเร่งด่วน ให้แก่ประชาชน 1 ล้านคนในเลบานอน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรง และความตึงเครียดด้านความมั่นคงในภูมิภาค
ทั้งนี้ รายงานของดับเบิลยูเอฟพีระบุด้วยว่า เลบานอนกำลังเผชิญกับภาวะ “ใกล้ถึงจุดแตกหัก” และไม่สามารถ “ยืนหยัด” กับสงครามครั้งใหม่ได้อีก ขณะที่นายนาจิบ มิกาตี นายกรัฐมนตรีเลบานอน กล่าวว่า ตราบใดที่อิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางทหารในเลบานอน อาจทำให้ชาวเลบานอนมากถึง 1 ล้านคน ต้องกลายสถานะเป็นผู้พลัดถิ่น.
เครดิตภาพ : AFP