เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ว่า ตนและ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เบื้องต้นได้กำชับให้สถานศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสังกัดอื่นๆ ในกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

“สำหรับการดูแลช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน ให้ดูแลเรื่องอาหาร ที่พัก รวมถึงการจัดส่งเรือเพื่อมอบถุงยังชีพ ตามสถานศึกษา บ้านพักครู หรือบ้านเรือนของนักเรียน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ส่วนในระยะยาว หากพื้นที่ไหนที่ปลอดภัยแล้วให้สำรวจความเสียหายของอาคารสถานที่ ครุภัณฑ์ของโรงเรียนในสังกัด จากนั้นให้แจ้งผ่านไลน์กลุ่ม “ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย” สพฐ. เพื่อพิจารณาในการให้การช่วยเหลือต่อไป หากจำเป็นต้องประกาศปิดโรงเรียนเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ก็ขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดำเนินการได้ทันที ในส่วนของพื้นที่ใดหากมีรายงานว่าน้ำกำลังมา ก็ขอให้เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์น้ำหลากให้เหมาะสม แต่ทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า​ เบื้องต้นได้รับรายงานข้อมูลสถานการณ์สถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัยจากศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังเพื่อช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุอุทกภัยของ สพฐ. ล่าสุดในวันนี้เมื่อเวลา 09.30 น. พบว่ามีสถานศึกษาได้รับผลกระทบจำนวน 461 โรงเรียน 58 สำนักงานเขตพื้นที่ (สพม. 13 เขต และ สพป. 45 เขต) รวม 32 จังหวัด มีนักเรียนที่ประสบเหตุอุทกภัย จำนวน 15,813 คน ได้รับการเยียวยา จำนวน 12,677 คน มีครูและบุคลากร จำนวน 1,491 คน ได้รับการเยียวยา จำนวน 1,097 คน รวมจำนวนผู้ประสบเหตุอุทกภัย จำนวน 17,304 คน ได้รับการเยียวยา จำนวน 13,774 คน ส่วนที่เหลืออีก 3,530 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับการช่วยเหลือ แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะสั้นเยียวยาโดยมอบถุงยังชีพ สำหรับนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบ จากกองทุนรวมน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย สพฐ. ส่วนในระยะยาว จะมีการจัดสรรงบซ่อมสุขาโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ งบล้าง/ซ่อมแซมอาคาร/สถานที่ และงบหนังสือ/อุปกรณ์การเรียน/เครื่องแบบ เป็นต้น