เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง รายงานผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณ 545 ล้านบาท 8 โครงการใหญ่ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เกิดปัญหาผลกระทบกับประชาชนโดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เนื่องจากก่อสร้างไม่เสร็จ แม้แต่โครงการเดียว ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน การตรวจสอบพบว่าระหว่างจะมีการทิ้งงาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมบัญชีกลาง ยังได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินแอดวานซ์ 15% และเงินค่างวดงาน ที่ชาวบ้านสงสัยว่าเป็นการเบิกจ่ายที่เกินจริงเนื่องจากบางโครงการมีเพียงการนำวัสดุอุปกรณ์ ก้อนหินมาเตรียมกองไว้ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีการเบิกจ่ายไปกว่า 80 ล้านบาท จากงบประมาณ 148 ล้านบาท พบเพียงการขุดท่อ ไม่มีการวางเชื่อมท่อหรือแม้แต่จะต้องมีอาคารชลศาสตร์ก็ไม่ปรากฏว่ามีการก่อสร้าง ทำให้ชาวบ้านยังสงสัยว่าการอนุมัติเงินนั้น คุ้มค่ากับการที่ได้ทำงานจริงหรือไม่

ดาบตำรวจสมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่ตำบลลำพาน เป็นการก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 526 เมตร งบ 44,490,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 13,737,500 บาท สภาวันนี้ไม่เห็นบริเวณจุดก่อสร้างแล้ว เพราะน้ำในแม่น้ำพานได้ท่วมกลืนกินงานไปจนหมด แต่พบว่ามีการเบิกจ่ายกรณีนี้ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายตรวจสอบได้มีการประเมินงานตามข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่สำหรับในพื้นที่ตำบลลำพาน ที่เคยถูกน้ำท่วมใหญ่มาแล้วเริ่มที่จะหวาดกลัวต่อสถานการณ์ที่หากฝนตกลงมาอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ดังนั้นขอความชัดเจนจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่เข้าทำงานด้วย ส่วนจะมีการดำเนินการกับผู้รับจ้างทิ้งงานอย่างไร ก็ขอให้เป็นไปตามความจริงเพราะเรื่องนี้เชื่อว่าประชาชนทุกคนเฝ้าจับตาอยู่

รายงานแจ้งอีกว่า ช่วงบ่ายวานนี้ คณะของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พร้อม นายประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ เขต 6 พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะ กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร นายวิรัช พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้าง โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ความยาว 423 เมตร งบประมาณ 59,306,000 บาท ในสภาพหน้างานก่อสร้าง ถูกแม่น้ำชีกลืนกินไปจนหมด โดยมีนายทินพล ศรีธเรศ สส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็น สส.ในเขตพื้นที่นี้อธิบายปัญหา ทราบว่าก่อนที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกสัญญา ผู้รับจ้างโครงการนี้ เป็นของ หจก.เฮงนำกิจ และพบมีการเบิกจ่ายไป 19,775,900 บาท

ทั้งนี้ นายพิเชษฐ์ ได้เดินลงไปบริเวณจุดก่อสร้าง ที่ยอมรับว่าปัญหานี้เป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจของพี่น้องประชาชน ที่ถูกผู้รับจ้างทิ้งงาน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือการเบิกจ่ายเงินแอดวานซ์ไปแล้วแต่ไม่ทำงาน รวมไปถึงการจ่ายเงินตามงวดงานที่ชวนให้ตั้งข้อสงสัย ท่ามกลางความดีใจของพี่น้องประชาชนที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้ความสนใจกับปัญหานี้

นายทินพล ศรีธเรศ สส.กาฬสินธุ์ เขต 5 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาการทิ้งงาานไม่ก่อสร้างหน้างานไม่เหลือร่องรอยชิ้นงานแล้วเพราะถูกน้ำท่วมไปจนหมด แต่ขณะนี้ชาวบ้านเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเนื่องจากบริเวณจุดก่อสร้าง มีการกัดเซาะพนังใต้น้ำ เริ่มเป็นโพลงใหญ่ และเกรงว่าหากเกิดฝนตกหรือมีน้ำหลาก จะทำให้พนังบริเวณนี้แตกและเกิดน้ำท่วมได้ ในฐานะที่ตนเป็น สส.พื้นที่ ได้นำ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 มาดู ก็มีความมั่นใจว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด ประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมต่องบประมาณที่เสียหายไปแล้ว และ สส.กาฬสินธุ์ ทุกคน ก็จะติดตามผลไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบด้านสัญญาโครงการ กรมโยธาธิการและผังเมือง และเหตุผลการใช้ ว.1459 ว่ากรมบัญชีกลางมีเหตุผลอย่างไร ส่วนการตรวจสอบปัญหาทุจริตคงจะชึ้นอยู่กับ ป.ป.ท.-ป.ป.ช.-สตง. รวมไปถึง ดีเอสไอที่ได้รับพิจารณาเป็นคดีพิเศษไปแล้ว

ขณะที่แหล่งข่าวกล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจในกระบวนการตรวจสอบ นอกจาก 4 องค์กรตรวจสอบที่สำคัญ ป.ป.ท.-ป.ป.ช.-สตง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะไปตกอยู่ที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ในเรื่องคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของอธิบดีกรมโยธาฯ ประชาชนต้องการทราบว่าได้มีการตั้งใครมาตรวจสอบบ้าง เนื่องจากจนถึงวันนี้ ในด้านการชี้แจงเรื่องเอกสาร สัญญา รายละเอียด ก็เริ่มที่จะเงียบหาย ที่ปกติจะมีการรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ อีกส่วนก็จะเป็นเรื่องของการอนุมัติให้สิทธิพิเศษในการยกเว้นค่าปรับ ว.1459 ว่ามีเหตุผลอะไร และในห้วงเดียวกัน มีคนได้รับสิทธิพิเศษจำนวนกี่ห้าง กี่บริษัท ที่จะต้องมีการนำออกมาเปิดเผย และยังรวมไปถึงความเสียหายในลักษณะเดียวกันของ 2 หจก.นี้ ยังมีที่ไหนอีกหรือไม่ เพราะทราบว่าก็ยังมีการรับงานและงานค้างเก่าตกค้างในลักษณะเดียวกัน

ส่วนที่อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนเชียงขวัญพิทยาคม ต.เชียงขวัญ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดสัมมนาการมีส่วนร่วมของภาครัฐและประชาชนในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ รุ่นที่ 1 โดยได้ยกเคสปัญหาการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร เป็นแบบอย่างนำร่องในการติดตามปัญหาทุจริต ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธาน กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตในประเทศไทย เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเอกชน รัฐวิสหกิจ หรือแม้แต่องค์กรของภาครัฐ-ราชการ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคยังลงไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ กมธ.ป.ป.ช. ได้รับการร้องเรียนและได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วหลายประเด็นในอดีต ที่นำไปสู่กระบวนการแก้ไขเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและภาษีของแผ่นดิน

การจัดการดูงานในครั้งนี้ จึงเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้รับและแนะนำปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายให้กับส่วนราชการที่จะนำไปขยายผลเพื่อใช้ป้องกันการทุจริตทั้งในส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ปัญหาการทุจริตหรือส่อทุจริตการศึกษา ยังจะนำเอากรณีปัญหาก่อสร้างโครงการป้องกันปัญหาน้ำท่วมจังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณ 545 ล้านบาท 8 โครงการใหญ่ ของกรมโยธาธิกรและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย คู่สัญญากับผู้ว่าจ้าง ที่ทราบว่าไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จเป็นเวลากว่า 5 ปี กลายสภาพเป็นการทิ้งงานงบประมาณราชการเสียหายไปกว่า 250 ล้านบาท ที่ลามไปกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนก่อให้เกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจภายในชุมชน จนชาวบ้านประฌามว่า โครงการ 7 ชั่วโคตร ขึ้นมาพิจารณานำร่อง

ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากเครือข่าย ป.ป.ท.จังหวัดกาฬสินธุ์ และธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ มาเพื่อพิจารณานำร่องในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาและหามาตรการไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้นต่อไป สำหรับปัญหาการก่อสร้าง มีจำนวน 8 โครงการ ทุกโครงการก่อสร้างไม่เสร็จ และถูกกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ยกเลิกสัญญากับผู้รับจ้างแล้วทั้งหมด ประกอบด้วย

(1) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 937 เมตร งบ 59,350,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 10,336,500 บาท

(2) โครงการเขื่อนตลิ่งริมลำน้ำปาว หน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 1,141 เมตร งบประมาณ 108,800,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์ เบิกจ่าย 64,544,000 บาท

(3) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี วัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย ความยาว 423 เมตร งบประมาณ 59,306,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 19,775,900 บาท

(4) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี (ระยะที่ 2) วัดลำชีศรีวนาราม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 385 เมตร งบ 59,270,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 33,090,500 บาท

(5) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำพาน หลังเทศบาลตำบลลำพาน บ้านวังยูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ความยาว 526 เมตร งบ 44,490,000 บาท  ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 13,737,500 บาท

(6) โครงการระบบระบายน้ำหลัก เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมเมือง งบ 148,200,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.ประชาพัฒน์  เบิกจ่าย 80,166,000 บาท

(7) โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งแก่งดอนกลาง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ งบ 39,540,000 บาท ความยาว 583 เมตร ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 11,099,000 บาท

(8) เขื่อนป้องกันตลิ่งบ้านหนองหวาย-หนองคล้า ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย ความยาว 300 เมตร งบ 39,525,000 บาท ผู้รับจ้าง หจก.เฮงนำกิจ เบิกจ่าย 20,169,000 บาท