วันที่ 28 ก.ย. เวลา 09.55 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นานกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงบ้านเกาะทราย พร้อมลงเดินลุยโคลนเข้ามาในซอยบ้านเกาะทราย 9 โดยได้ให้กำลังใจทหารกองบัญชาการทหารพัฒนา ที่กำลังช่วยกวาดดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน จากนั้นรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และแนวทางการฟื้นฟูในพื้นที่ จากนั้นนายกฯ ได้เข้าไปเยี่ยมบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบและพูดคุยสอบถามถึงขั้นตอนการขูดโคลน และใช้เครื่องดันน้ำแรงดันสูง ฉีดโคลนออกจากบ้านเรือน

นายกฯ ยังได้เข้าไปเยี่ยมเยียนบ้านประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และมีดินโคลนเข้าภายในบ้านจำนวนมาก โดยประชาชนได้ร้องไห้เข้าสวมกอดนายกฯ พร้อมเล่าถึงความเดือดร้อน ทำให้นายกฯ น้ำตาคลอ ก่อนที่นายกฯ ได้ทักทายผู้สูงอายุ ที่หน่วยแพทย์ทหารได้เข้ามาตรวจสุขภาพ วัดความดันให้ โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอคุณยายให้มีกำลังใจ วันนี้มากันหมดเลยทั้งนายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี ช่วยแน่นอน และมีสาธารณสุขคอยดูแลเรื่องยา 

และนายกฯ ยังได้เข้าไปเยี่ยมคุณยายตาล หงศ์คำ อายุ 80 ปี ซึ่งคุณยายร้องไห้โฮและยกมือท่วมหัวหลังจากได้เจอนายกฯ พร้อมกล่าวว่า ไม่คิดว่าชีวิตยายจะได้เจอกับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามถึงอาการป่วย และแพทย์ที่เข้ามาดูแลและจ่ายยาให้กับคุณยายถึงบ้าน เนื่องจากไม่ยอมออกจากบ้านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ นายกฯ ระบุว่า ให้กำลังใจยายนะ ไม่เป็นไรทุกคนเข้ามาช่วยทั้งหมด และขอยืนยันว่า เท่าที่พูดคุยกับทหาร จะไม่มีใครออกจากพื้นที่เลย จะดูให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนและเร่งทำงาน อีกทั้งรัฐบาลดูแลเรื่องของการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งเงินมาถึงมืออย่างแน่นอน พร้อมให้กำลังใจและขอให้คุณยายทานยาอย่างต่อเนื่อง และชมว่าอายุขณะนี้ถือว่าเก่งแล้วที่ยังแข็งแรงอยู่ พร้อมเตือนว่าที่เป็นโรคความดันและเบาหวาน ผลไม้ก็มีน้ำตาลเยอะ ขอให้ระวัง นายกฯ ยังมอบยารักษาโรคประจำตัวให้คุณยาย ก่อนเดินมาพบกับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ที่มาช่วยทำความสะอาดในพื้นที่ นายกฯ จึงให้กำลังใจในการทำงานช่วยเหลือประชาชน 

นอกจากนี้ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอกของทีมหมูป่า ได้ยื่นข้อเสนอถึงนายกฯ ขอให้ช่วยประสานงานจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และฟื้นฟูจิตใจเด็กและเยาวชนในชุมชนผู้ประสบภัย รวมถึงให้ตั้ง ศปช. ชุมชน ทำงานร่วมกับ ศปช. ส่วนหน้า และช่วงปิดภาคเรียน ขอให้มีมาตรการกระตุ้นสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ที่ประสบภัยได้เป็นจิตอาสา เพื่อมีรายได้พิเศษจากการทำงานช่วยเหลือฟื้นฟูชุมชน 

จากนั้น นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบปะให้กําลังใจ และมอบเงินเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย รายละ 29,700 บาท และหัวหน้าครอบครัว จำนวน 1 ราย จำนวนเงิน 59,400 บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย บ้านเสียหายจำนวน 50 ครอบครัว เป็นเงิน 2,475,000 บาท มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามมติคณะคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ก.ย. อำเภอแม่สาย จำนวน 222 ครัวเรือนเป็นเงิน 1,110,000 บาทถ้วน มอบชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย และมอบผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก จำนวน 102 ห่อใหญ่ จากเงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี