สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้สเปนบอยคอตพิธีสาบานตนอย่างสิ้นเชิง โดยนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ผู้นำสเปน กล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลเม็กซิโก เป็นเรื่องที่ “อธิบายไม่ได้” และ “ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง”
แม้ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำเม็กซิโก ที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ส่งจดหมายถึงสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 เมื่อปี 2562 เพื่อร้องขอให้พระองค์ทรงยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการพิชิตจักรวรรดิแอซเท็ก ระหว่างปี 2062-2064 “อย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ และอย่างเป็นทางการ” แต่ไชน์บาว์ม กล่าวในแถลงการณ์ว่า จดหมายฉบับนี้ไม่เคยได้รับการตอบกลับโดยตรง
เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางการเม็กซิโกส่งคำเชิญให้ซานเชซ ร่วมพิธีสาบานตนของไชน์บาว์ม “เพียงคนเดียว” อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสเปน ระบุในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลมาดริดตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีเม็กซิโกคนใหม่ “ในทุกระดับ”
“สเปนและเม็กซิโกเป็นพี่น้องกัน ดังนั้น เราจึงไม่สามารถยอมรับการถูกกีดกันเช่นนี้ได้ และเราแจ้งให้รัฐบาลเม็กซิโกทราบว่า จะไม่มีตัวแทนทางการทูตจากรัฐบาลสเปน เข้าร่วมพิธีสาบานตน เพื่อเป็นการประท้วง” ซานเชซ กล่าวในการแถลงข่าว นอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) สมัยสามัญ ครั้งที่ 79 ที่นครนิวยอร์ก
อนึ่ง เม็กซิโกเผยแพร่รายชื่อแขกในพิธีสาบานตนของไชน์บาว์ม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ไม่รวมอยู่ในรายชื่อ ซึ่งนางมาร์การิตา โรเบลส รมว.กลาโหมสเปน กล่าวว่า สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสเปน เข้าร่วมพิธีสาบานตนทุกครั้ง ด้วยเหตุนี้ สเปนจึงไม่สามารถยอมรับได้ว่า พระองค์ไม่ควรได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมพิธีการครั้งนี้.
เครดิตภาพ : AFP