เมื่อวันที่ 26 ก.ย. พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้จับกุมตัวนายวิชัย เจริญสุข อายุ 70 ปี พร้อมของกลาง คือ 1. เสื้อยืดโปโล จำนวน 1 ตัว (สวมใส่ขณะก่อเหตุ) 2.ไส้กรอก ยี่ห้อแหลมทอง น้ำหนักถุงละ 1 กก. จำนวน 5 ถุง 3.ไส้กรอก ยี่ห้อเบทาโก น้ำหนักถุงละ 1 กก. จำนวน 2 ถุง จับกุมตัวได้ที่ ริมถนนภายในซอยประเสริฐอิสลาม 1 ม.3 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน  

จากการสอบสวนนายวิชัย  ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนรับว่าก่อเหตุจริงตามคลิปวงจรปิด วันก่อเหตุได้ดื่มเหล้าขาวมาก่อนก่อเหตุ ตนทำอาชีพ เก็บขวด เก็บหัวปลาแซลม่อนขาย ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ตนจะเดินเร่ร่อนเก็บขวดอยู่แถวถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ทำแบบนี้ทุกวันประมาณ 40 ปี  ซึ่งวันเกิดเหตุขณะตนมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณร้านนายตรี ลูกชิ้นปิ้ง สาขาเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ตนเมาได้ก่อเหตุขโมยไส้กรอก 15 ถุง แล้วเดินหนี

สาเหตุที่ทำไปเพราะจะนำของที่ขโมยไปแลกเหล้ากิน หากไม่ได้กินเหล้าก็จะมีอาการเกร็ง ไม่มีแรงอยู่ไม่ได้ ต้องกินทุกวัน 3 เวลา จะกินช่วงเช้าหลังตื่นนอน ช่วงเย็นและกลางคืนก่อนนอน หากไม่ได้กินก็จะไม่มีแรงทำงานใช้ชีวิตไม่ได้ สุดท้ายขอโทษผู้เสียหาย ยอมรับว่าก่อเหตุครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และรับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

ด้านนางสาวกัญจน์รัชต์ ฉวีอินทร์ อายุ 45 ปี เจ้าของร้านนายตรี ลูกชิ้นปิ้ง สาขาเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า โดยปกติแล้วทางซัพพลายเออร์ของร้านตนจะมาส่งของกลางคืน จะเป็นช่วงหลังเที่ยงคืนของทุกรอบที่ตนสั่งอยู่แล้ว แต่การสั่งของรอบนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ตรวจสอบนับของปรากฏว่าของหายไปประมาณ 15 กก. จึงมาย้อนดูกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นลุงได้เดินเท้าเข้ามาจากริมถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด แล้วมาเปิดที่เก็บของหน้าร้านตนจากนั้นได้หิ้วไส้กรอกจำนวน 15 กก. เดินหลบหนีไป วันนี้ช่วง 12.00 น.ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่สภ.ปากเกร็ด

แต่ปรากฏว่าผ่านไปประมาณ 2 ชม. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้โทรแจ้งตนว่าจับผู้ต้องหา พร้อมของกลางได้แล้ว ตนรู้สึกตกใจ และดีใจมากเพราะตำรวจทำงานรวดเร็วยังผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ตนอยากขอบคุณตำรวจทุกคนที่จับกุมคนร้ายได้ ทั้งที่มูลค่าความเสียหายตนไม่เยอะก็ตาม ส่วนของกลางตนได้ไม่ครบ เพราะทางผู้ต้องหาได้เอาไปแลกเหล้าดื่ม จากการพูดคุยกับผู้ต้องหาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เบื้องต้นก็ได้ไหว้ขอโทษตน และบอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก  โดยหลังจากนี้ตนจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น โดยไม่นำของไว้หน้าร้านอีก หรืออาจจะเป็นการล็อกแม่กุญแจเพื่อป้องกันเหตุ