เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ภายหลังจากดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จนทำให้มีน้ำท่วมถนนสาย 118 เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย และบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.เวียง และ ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า โดยทิศทางการไหลของมวลน้ำจาก อ.เวียงป่าเป้า ส่วนใหญ่จะไหลลงแม่น้ำลาว

โดยพื้นที่แรกที่ต้องเตรียมรับมือกับมวลน้ำคือพื้นที่ อ.แม่สรวย โดยเฉพาะพื้นที่ราบต่ำริมแม่น้ำย่านตลาดและตัวอำเภอ ซึ่งน้ำจากลำน้ำลาว อาจจะเอ่อเข้าท่วมได้ แต่ว่าจะท่วมไม่นาน น้ำก็จะเคลื่อนผ่านตัว อ.แม่สรวย ลงไปที่ฝายแม่ลาว ซึ่งที่ฝายแม่ลาว มวลน้ำจากถูกจัดสรรเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเข้าโครงการชลประทานไป อ.พาน ส่วนที่ 2 เข้าชลประทาน อ.แม่ลาว และ อ.เมือง และส่วนที่ 3 ปล่อยตามลำน้ำลาว จะมีชุมชนที่ลุ่มต่ำ อ.แม่ลาว แถวป่าก่อดำ น้ำจะท่วมสูงและไหลเชี่ยว

ส่วนที่บริเวณบ้านหนองคึก ต.บัวสลี อ.แม่ลาว แม่น้ำลาวได้เริ่มเอ่อล้นตลิ่ง และเข้าท่วมถนนที่เชื่อมจากถนนพหลโยธินสู่หมู่บ้านหนองคึก แต่ยังไม่กระทบกับระบบจำหน่ายไฟฟ้า สามารถจ่ายไฟให้บ้านเรือนประชาชนได้ หลังจากนั้นแม่น้ำลาวไหลผ่านพื้นที่ อ.แม่ลาว น้ำลาวจึงจะไหลผ่านพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประเมินว่าจะไม่ได้ผลกระทบมาก เพราะแม่น้ำลาวจะไหลผ่านพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเนินเขาและพื้นที่สูง ก่อนจะไหลลงแม่น้ำกก บริเวณหลังฝายแม่กก อ.เมือง แล้วไหลไปลงแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงแสน คาดว่ามวลน้ำจะไม่ท่วมย่านเศรษฐกิจเมืองเชียงราย หรือใกล้จุดที่น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาริมน้ำกก

ด้านที่หมู่บ้านแม่ปูนล่าง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ถูกน้ำหลากเข้าท่วมได้รับความเสียหายจำนวนมาก ในวันนี้จากการสำรวจพบว่า สะพานของหมู่บ้านได้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ ทางชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ กัน จอมพลัง ได้ช่วยกันกู้สะพานให้กลับมาใช้งานได้ชั่วคราว โดยนำไม้ขนาดใหญ่ที่ไหลมากับน้ำ ตัดเป็นแผ่นและวางเรียงเป็นทางข้ามสะพานชั่วคราวจนสำเร็จ ทำให้ชาวบ้านได้กลับมาสัญจรเข้าออกได้อีกครั้ง

ส่วนความเสียหายภายในหมู่บ้าน มีชาวบ้านเกือบ 20 หลังคาเรือน ที่ถูกน้ำหลากเข้าท่วมจนบ้านได้รับความเสียหาย ส่วนระดับน้ำตอนนี้ได้ลดลงแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ต่างพากันมาเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกนํ้าท่วม ซึ่งพังเสียหายไม่เป็นชิ้นดี โดยยังไว้วางใจไม่ได้ว่าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมในพื้นที่อีกหรือไม่.