หลายๆ คนมีนิสัยชอบเติมน้ำส้มสายชูลงในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่ไม่มีใครรู้ว่า มันจะส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง?

น้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุงที่พวกเราคุ้นเคยกันดี ซึ่งหลายๆ คนใช้เพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยวให้กับอาหาร เป็นการกระตุ้นต่อมรับรส เช่นเดียวกับ ลี วัน ถัน หญิงชาวเวียดนามวัย 51 ปี ที่ชอบเติมน้ำส้มสายชูในอาหารแทบทุกมื้อ

คุณลีเป็นนักบัญชีของบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง เธอชอบทำอาหาร จึงมักทำอาหารเช้าและอาหารเย็นให้ทั้งครอบครัว และทำอาหารกลางวันนำมารับประทานที่บริษัทด้วย ส่วนใหญ่เธอจะเติมน้ำส้มสายชู 1-2 ช้อน เวลากินอาหารเหลวประเภทซุป ทานบะหมี่หรือวุ้นเส้น เพื่อเพิ่มรสชาติ และเธอมักจะมีน้ำส้มสายชูดำเตรียมเอาไว้ สำหรับจิ้มรับประทานอาหารจานอื่น ๆ ด้วย

คุณลี กล่าวว่า รสเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู ช่วยเพิ่มความอยากอาหารของเธอ และกระตุ้นต่อมรับรส ช่วยให้เธอรับประทานอาหารได้ดีขึ้น

เมื่อเห็นว่าคุณลีเติมน้ำส้มสายชูในอาหารแทบทุกมื้อ ลูกชายของเธอจึงกังวลว่าจะส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่อย่างไรบ้าง? จึงขอให้เธอไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ผลตรวจออกมาว่า “สุขภาพโดยรวมไม่มีปัญหาใดๆ” อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของกรดในกระเพาะอาหารสูงกว่าปกติเล็กน้อย สาเหตุเพราะชอบเติมน้ำส้มสายชูในอาหาร

การเติมน้ำส้มสายชูในอาหารแทบทุกมื้อ ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?

แพทย์อธิบายว่า “การรับประทานน้ำส้มสายชูในปริมาณปานกลาง จะช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น และลดน้ำตาลในเลือด แต่หากรับประทานมากเกินไป หรือบ่อยเกินไป น้ำส้มสายชูจะส่งผลต่อระดับของกรดในกระเพาะอาหาร และทำให้ระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหาร คุณลีมีอายุมากขึ้น และระบบการเผาผลาญของร่างกายก็อ่อนแอลงกว่าเดิม ดังนั้นการรับประทานอาหารรสเปรี้ยวเป็นประจำ อาจทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารส่วนเกินได้ ในระยะยาวมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น กรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร เป็นต้น”

อย่างไรก็ดี สภาพร่างกายของคุณลีในปัจจุบัน ยังไม่มีอะไรร้ายแรง ขอเพียงปรับการกินอาหารให้เหมาะสม ลดการบริโภคน้ำส้มสายชู อย่ากินมากจนเกินไป และควรเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ ลดการบริโภคอาหารที่มีเกลือ น้ำตาล และไขมันสูง เพื่อสุขภาพที่ดี

การรับประทานอาหารที่มีความสมดุลในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่รับประทานเครื่องเทศ หรืออาหารบางอย่างมากเกินไป จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดี ไม่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ.

ที่มาและภาพ : soha