เมื่อวันที่ 25 ก.ย. โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย​กล่าวว่า​ ได้รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำปิงล้นตลิ่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร​ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่รายงานตลอดเวลา​ ว่าปริมาณน้ำยังมากอยู่​ แต่ยังบริหารจัดการได้ วันศุกร์ที่ 27 ก.ย. นี้​ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ จะลงพื้นที่ไปสำรวจที่เชียงรายและเชียงใหม่ พร้อมทั้งนำเครื่องมือเครื่องไม้นำทีมทั้งหลายไปดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งพวกเราก็จะร่วมคณะไปกับนายกรัฐมนตรีด้วย

ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเริ่มมีน้ำเข้าไปในพื้นที่เศรษฐกิจ นายอนุทินยืนยันว่าทางจังหวัด กำลังเร่งระบายอยู่​ บริหารจัดการการไหลของน้ำ เขื่อนและฝายต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่ควบคุมได้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตลอดเวลา

นายอนุทินยังระบุถึงส่วนที่โซเชียล ชื่นชมการบริหารจัดการของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งการแจ้งเตือนและไลฟ์สด สถานการณ์ ปริมาณน้ำ ที่จุดวัด P1 สะพานนวรัฐ ตลอด 24 ชั่วโมงว่า​ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่ใช่แค่ของกระทรวงมหาดไทย ทุกหน่วยงาน ร่วมมือกัน และยิ่งหากได้กำลังใจจากโซเชียล​ ก็จะยิ่งไม่ท้อถอย พวกเราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละพื้นที่ประสบภัย มีอำนาจเต็มที่ในการประกาศใช้งบประมาณ เพื่อเยียวยาความเสียหายให้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่​ และทางส่วนกลาง ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย ก็เร่งอย่างเต็มที่ในการสำรวจ ให้ประชาชนมายืนยันว่าอยู่ในเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ก็จะเร่งโอนเงินช่วยเหลือไปให้แต่ละครอบครัวโดยเร็วที่สุด

เมื่อถามว่าพื้นที่รับน้ำเหนือ จังหวัดต่างๆ และกรุงเทพฯ ที่ประชาชนหลายคนยังหวาดหวั่น นายอนุทินยืนยันว่า​ เราใช้ทุกเทคโนโลยีที่มีอยู่ บูรณาการกับกระทรวงอื่น เพื่อติดตามสถานการณ์พยากรณ์อากาศและระบบการแจ้งเตือนภัย เราทำทุกบริบทอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าสถานการณ์ครั้งนี้จะซ้ำรอยน้ำท่วมปี 2554 หรือไม่ นายอนุทินยอมรับว่า เราต้องคาดว่าไม่น่าจะร้ายแรงถึงขนาดนั้น แต่ว่าตัวจำนวนน้ำ แล้วภัยพิบัติที่มา จำนวนปริมาณฝนมากพอๆ กัน และยังมีที่เติมมาจากที่เราควบคุมไม่ได้ จากประเทศเพื่อนบ้าน บางทีเขาอั้นไม่ไหวต้องระบาย มาถึงเรา เราต้องบริหารจัดการทั้งภัยธรรมชาติเอง ทั้งปริมาณน้ำที่มาจากการปล่อยระบายจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย