นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ว่า ยอดโอนเงินเข้าบัญชีวันแรก จำนวน 3,167,565 ราย เริ่มโอนตั้งแต่ เวลา 00.00-07.30 น.​ ของวันที่ 25 ก.ย. 2567 วันนี้นอกจากเป็นการโอนเงินให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการแล้ว ยังมีการโอนเงินเดือนของข้าราชการด้วย จึงทำให้มีความล่าช้าไปนิดหนึ่ง 

ส่วนขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิสามารถตรวจผ่านแอปพลิเคชัน “รัฐจ่าย” ตามที่เคยแจ้งไปแล้ว ซึ่งสามารถตรวจสอบสิทธิได้หลายประเภท อาทิ กลุ่มคนพิการ กลุ่มสวัสดิการ เป็นต้น กระบวนการตรวจสอบไม่ได้มีปัญหาแอปพลิเคชันยังเดินหน้า หากประชาชนไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ก็จะได้รับสิทธิกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบถัดไป 

“กลุ่มสวัสดิการที่ต้องผูกพร้อมเพย์ยังมีบางส่วนตกหล่น ก็ขอให้ไปดำเนินการให้เรียบร้อยตามที่ท่านเลือก หรือสามารถทำเองได้ที่หน้าตู้เอทีเอ็ม ส่วนในกลุ่มผู้พิการยังมีอีกราว 9 หมื่นกว่าราย ที่ต้องไปทำการแก้ไข เนื่องจากบัตรหมดอายุ บัตรผิดพลาด และยังมีผู้ที่ยังไม่เชื่อมต่อช่องทางการจ่ายเงินอีกประมาณ 1 หมื่นราย เรื่องนี้จะต้องไปสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​รัฐบาลจะมีการโอนอีกสามครั้ง หากกระบวนการทั้งหมดไม่สามารถดำเนินการได้ครบถ้วนก่อนวันที่ 22 ธ.ค. 2567 ก็ถือว่าท่านไม่ได้รับสิทธิ” นายจุลพันธ์ กล่าว 

นายจุลพันธ์​ กล่าวว่า กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2567 เป็นต้นไป โดยขณะนี้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมที่จะจ่ายเงินกลุ่มคนพิการและผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0 จะได้รับเงินวันที่ 25 ก.ย. 2567 จำนวน 3.167 ล้านคน ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3 จะได้รับเงินวันที่ 26 ก.ย. 2567 จำนวน 4.51 ล้านคน ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7 จะได้รับเงินวันที่ 27 ก.ย. 2567 จำนวน 4.51 ล้านคน และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9 จะได้รับเงินวันที่ 30 ก.ย. 2567 จำนวน 2.26 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ ให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ต.ค. 2567 ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 22 พ.ย. 2567 และครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 22 ธ.ค. 2567 โดยเมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ