สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) สมัยสามัญ ครั้งที่ 79 เรียกร้องบรรดาผู้นำโลก ให้ร่วมกันยืนหยัดต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย ท่ามกลางความขัดแย้งด้านภูมิศาสตร์การเมือง ที่ยังคงยืดเยื้อและรุนแรง ในหลายภูมิภาคของโลก
ผู้นำสหรัฐเตือนเกี่ยวกับ “สงครามเต็มรูปแบบ” ในเลบานอน ที่จะเป็นการสู้รบกันระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แต่ไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน ว่ารัฐบาลวอชิงตันจะร่วมยับยั้งวิกฤติการณ์ดังกล่าวอย่างไร หลังกองทัพอิสราเอลโจมตีเลบานอนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 558 ราย
เกี่ยวกับสงครามในฉนวนกาซา ไบเดนยังคงยืนยันเป้าหมายของการยุติสงครามที่นี่ ซึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มอฮามาส และจะครบ 1 ปี ในวันที่ 7 ต.ค. นี้ ต้องยุติด้วยข้อตกลงหยุดยิง แม้การเจรจารอบปัจจุบันยังแทบไม่มีความคืบหน้าก็ตาม
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐกล่าวถึงสงครามในยูเครน ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย “ล้มเหลว” และเรียกร้องให้พันธมิตรตะวันตก “อย่าเพิ่งเหนื่อยหน่าย” กับการมอบความสนับสนุนให้แก่ยูเครน
ทั้งนี้ ไบเดนปิดท้ายการกล่าวถ้อยแถลงของตัวเอง ด้วยการกล่าวถึงการตัดสินใจถอนตัวออกจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พ.ย. นี้ ว่าจริงอยู่ที่เท่ากับว่า จะเป็นการดำรงตำแหน่งเพียงสมัยเดียว แต่การอยู่บนเส้นทางการเมืองตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา เป็นการผ่านประวัติศาสตร์ และเรียนรู้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โลกเผชิญกับวิกฤติการณ์มากมาย แต่ท้ายที่สุดแล้ว “ทุกอย่างย่อมจะดีขึ้นเสมอ”.
เครดิตภาพ : AFP