สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต่อไป
ขณะที่นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในเลบานอน จะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย นั่นคือ การที่ประชาชนซึ่งอพยพออกมาจากภาคเหนือของอิสราเอล จะสามารถเดินทางกลับเข้าไปอาศัยได้ตามปกติ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับกลุ่มฮามาส “ไม่เหมือนกัน”
ด้านกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ออกแถลงการณ์ ว่าปฏิบัติการโจมตีทางทหารครั้งใหม่ของอิสราเอล ในกรุงเบรุต เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 15 คน รวมถึงนายอิบราฮิม มูฮัมหมัด กาบิซี ผู้บัญชาการกองกำลังขีปาวุธและจรวด ซึ่งกองทัพอิสราเอลยืนยันการเสียชีวิตของกาบิซีเช่นกัน
ส่วนสาธารณสุขเลบานอนรายงาน ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 558 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 50 ราย และผู้หญิงอย่างน้อย 94 คน นอกจากนี้ ประชาชนอีกราว 500,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย ตามรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์)
ทั้งนี้ สถานการณ์ตามแนวชายแดนระหว่างภาคใต้ของเลบานอน กับภาคเหนือของอิสราเอลในเวลานี้ ถือว่ามีความรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน เมื่อปี 2549 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,600 รายในเลบานอน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตประมาณ 160 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
อย่างไรก็ตาม การที่สงครามครั้งนั้นที่กินเวลานานประมาณ 1 เดือน ยุติตามคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งไม่ใช่ข้อตกลงหยุดยิง จึงหมายความว่า อิสราเอลและเลบานอนยังคงมีสถานะเป็นคู่สงครามต่อกัน.
เครดิตภาพ : AFP