สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ว่าบริษัทอะคินโดะ ซูชิโร ผู้นำอุตสาหกรรมซูชิสายพาน เปิดตัวระบบแสดงซูชิบนสายพานลำเลียงแบบดิจิทัล “ดิจิทัล ซูชิโร วิชั่น” หรือดิจิโร ซึ่งจะแสดงวิดีโอของซูชิที่กำลังเคลื่อนผ่านหน้าจอ และลูกค้าจะสามารถสั่งอาหารได้ เพียงสัมผัสกับหน้าจอ

บริษัทระบุว่า ระบบดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนับตั้งแต่เปิดตัวในบางสาขา เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว และบริษัทมีแผนติดตั้งระบบดิจิโรให้ได้ 19 สาขาทั่วประเทศ ภายในเดือนนี้

หลังวิดีโอของลูกค้าเลียปากขวดซอสถั่วเหลืองในร้านซูชิโร กระจายไปบนโลกออนไลน์ เมื่อปี 2566 บริษัทจึงป้องกันปัญหาด้วยการหยุดใช้สายพานลำเลียง และเปลี่ยนมาใช้ระบบสั่งอาหารผ่านหน้าจอ

อย่างไรก็ตาม นายโคอิจิ มิซึโตเมะ ประธานบริษัทฟู้ด แอนด์ ไลฟ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของซูชิโร เชื่อว่า การที่ซูชิเคลื่อนไปมาตามสายพานนั้นดูมีชีวิตชีวากว่า บริษัทจึงตัดสินใจนำระบบดิจิโรมาใช้ “เราต้องการสร้างสมดุลระหว่างการลดขยะอาหาร และรับรองสุขอนามัย ร่วมกับความสนุกในการรับประทาน” โฆษกบริษัทกล่าว

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจจากมารูฮะ นิจิโร พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 81.5 รับประทานซูชิจากการสั่งโดยตรงกับเชฟ มากกว่าซูชิบนสายพาน

ในส่วนของ ‘ฮามาซูชิ’ บริษัทในเครือเซ็นโช โฮลดิงส์ หยุดใช้สายพานในร้านถึงร้อยละ 90 เช่นเดียวกัน และนำระบบรางความเร็วสูงมาใช้ส่งอาหารไปยังแต่ละโต๊ะ โดยคาดว่าระบบใหม่จะช่วยลดขยะอาหารได้ประมาณ 1,000 ตันต่อปี

แต่ ‘กุระซูชิ’ มีแผนที่จะคงระบบสายพานไว้ในร้านอาหารทุกแห่ง และเปิดตัวช่องทางสำหรับสั่งต่างหาก บริษัทสร้างขยะน้อยลงได้ถึงร้อยละ 3 จากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในการวิเคราะห์แนวโน้มของลูกค้า เพื่อคัดเลือกเมนูสำหรับจัดวางบนสายพาน 

บริษัทระบุว่า ความต้องการจำนวนมาก มาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ซูชิสายพาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยมีการติดตั้งสายพานลำเลียงยาว 123 เมตรที่สาขาหลักในย่านกินซาของกรุงโตเกียว เมื่อเดือน เม.ย.

“สัญลักษณ์ของซูชิสายพาน คือความสนุกในการหยิบวัตถุดิบจากสายพาน” นายโนบุโอะ โยเนกาวะ นักวิจารณ์ซูชิสายพาน กล่าว “หากร้านซูชิไม่สามารถหาวิธีให้ลูกค้าสนุก ก็อาจจะเสียลูกค้าให้กับร้านซูชิทั่วไป ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้ในอนาคต”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES