เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. เปิดเผยกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบันฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่ได้เปิดเผยการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ปี 67 คนกรุงกลัวน้ำท่วมหรือไม่” พบว่า ร้อยละ 33.82 ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่า ค่อนข้างกังวล รองลงมาร้อยละ 27.79 ไม่กังวลเลย  ส่วนร้อยละ 42.14 ระบุว่า ค่อนข้างพึงพอใจต่อการระบายน้ำของ กทม. ในช่วงฤดูฝนนี้ และร้อยละ 37.25 ระบุว่าค่อนข้างเชื่อมั่นต่อการป้องกันน้ำท่วมของ กทม. นั้น กทม. ขอบคุณนิด้าโพลที่ได้สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของ กทม. และขอน้อมรับเพื่อนำมาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อคลายความกังวลและสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันน้ำท่วมของ กทม. ให้มากยิ่งขึ้นด้วย 

โฆษก กทม. กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ กทม. ได้เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ฝนตกหนัก โดยติดตามข้อมูลสถานการณ์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เมื่อมีรายงานว่าจะมีฝนตกหนักในประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ ก็สามารถดำเนินการตามแผนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่กำหนดไว้ได้ทันที โดยผู้ว่าฯ กทม. ได้กำชับให้สำนักการระบายน้ำและเขตพื้นที่ทั้ง 50 เขต ติดตามแก้ไขปัญหากรณีน้ำท่วมขัง พร้อมทั้งดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยการเร่งลดระดับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ถนนสายหลัก สายรอง ตรอกซอกซอยต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด พร้อมจัดรถบริการเข้าซอยถึงบ้านกรณีน้ำในซอยท่วมสูง และช่วยเหลือแก้ไขกรณีรถดับขณะลุยน้ำ สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนว่า กทม. ไม่ทอดทิ้ง     

สำหรับแผนการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร ปี 67 ประกอบด้วยการควบคุมลดระดับน้ำตามคูคลองให้อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งแก้มลิงจำนวน 36 แห่ง และบ่อสูบน้ำจำนวน 376 แห่ง สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำชั่วคราวในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลัก พื้นที่ชุมชนและพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมในถนนซอย การเตรียมความพร้อมอุโมงค์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประตูระบายน้ำ 248 แห่ง และสถานีสูบน้ำ 195 แห่ง ขุดลอกคูคลอง จัดเก็บขยะวัชพืช รวมถึงการแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำในคลองบริเวณใต้สะพานและท่อลอดต่าง ๆ  


รวมทั้งเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะตะแกรงท่อระบายน้ำ ขยะหน้าตะแกรงสถานีสูบน้ำ และบ่อสูบน้ำในขณะที่มีฝนตก เพื่อเร่งระบายน้ำให้ไหลเข้าระบบได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้า ตู้ควบคุมเครื่องสูบน้ำของสำนักการระบายน้ำและเครื่องสูบน้ำดีเซลของสำนักงานเขต ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ เตรียมความพร้อมอุปกรณ์สนับสนุน เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถ Mobile Unit เครื่องสูบน้ำ และเจ้าหน้าที่หน่วย Best เข้าแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชน 

นอกจากนี้ มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน เฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วมและพื้นที่เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ โดยให้จัดตั้งขึ้น ณ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อศูนย์ช่วยเหลือประชาชนที่เกิดเหตุน้ำท่วมหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ในวันที่ 1 มิ.ย. 67 เป็นต้นมา รวมถึงให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สำรวจชุมชนที่มีปัญหาน้ำท่วมให้เร่งเข้าแก้ไขปัญหาในทันที 


ขณะเดียวกันได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนที่มีโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วยการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของท่อระบายน้ำ ทางระบายน้ำ และระบบระบายน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลักที่มีการก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโครงการขนาดใหญ่ โดยแจ้งประสานงานและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับจ้างโครงการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ก่อสร้างและรายงานผลการดำเนินงานให้ กทม. ทราบเป็นประจำทุกเดือน รวมทั้งตรวจสอบการเบี่ยงแนวท่อระบายน้ำ (By Pass) ให้น้ำสามารถไหลได้สะดวก หากมีปัญหาติดขัดในการระบายน้ำ ให้แจ้งโครงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในจุดที่ยังมีการก่อสร้างเพื่อเร่งระบายน้ำเข้าระบบระบายน้ำ


นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่แล้วเสร็จให้เร่งแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบระบายน้ำของ กทม. โดยเฉพาะการก่อสร้างระบบระบายน้ำคูน้ำแนวถนนวิภาวดีรังสิต รวมทั้งได้ประชุมหารือร่วมกับเทศบาลนครนนทบุรี กรมทางหลวง เทศบาลนครปากเกร็ด เทศบาลเมืองคูคต กรมชลประทาน และเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนพื้นที่รอยต่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 


อีกทั้งยังได้มีการประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โดยมีการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ และการประชุมติดตามสถานการณ์กับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อวิเคราะห์ ติดตามคาดการณ์สภาพอากาศ ปริมาณฝน ปริมาณน้ำ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา


ทั้งนี้ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ปี 67 คนกรุงกลัวน้ำท่วมหรือไม่” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย. 67 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง โดยสอบถามจากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉืองเหนือที่ผ่านมาประชาชนมีความกังวลว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ หรือไม่ พบว่าร้อยละ 33.82 ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าค่อนข้างกังวล รองลงมาร้อยละ 27.79 ไม่กังวลเลย, ร้อยละ 21.06 ไม่ค่อยกังวล และร้อยละ 17.33 ระบุว่ากังวลมาก


ด้านความพึงพอใจของประชาชนต่อการระบายน้ำของ กทม. ในช่วงฤดูฝนนี้ พบว่า ร้อยละ 42.14 ระบุว่า ค่อนข้างพึงพอใจ รองลงมาร้อยละ 28.09 ไม่ค่อยพึงพอใจ, ร้อยละ 17.79  พึงพอใจมาก, ร้อยละ 10.38 ไม่พึงพอใจเลย และ ร้อยละ1.60 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ เมื่อถามความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพมหานคร พบว่า ร้อยละ 37.25 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น รองลงมาร้อยละ 32.29 ไม่ค่อยเชื่อมั่น, ร้อยละ 15.65 ไม่เชื่อมั่นเลย, ร้อยละ 14.05 เชื่อมั่นมาก และร้อยละ0.76 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ.