สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกีโต ประเทศเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ว่าเอกวาดอร์มีแผนตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ 12 จังหวัดทุกคืน ตั้งแต่วันจันทร์-พฤหัสบดี ของแต่ละสัปดาห์ และจะเพิ่มช่วงเวลากลางวัน ระหว่าง 08.00-17.00 น. ของวันอาทิตย์ เพื่อปกป้องแหล่งน้ำที่มีอยู่ หลังไม่มีฝนตกติดต่อกันต่อเนื่องอย่างน้อย 71 วันแล้ว

ทั้งนี้ ระดับน้ำที่ลดลงส่งผลให้อ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งครอบคลุมความต้องการไฟฟ้าในประเทศร้อยละ 70 ลดลงถึงระดับวิกฤติ

แถลงการณ์ของประธานาธิบดีดาเนียล โนโบอา ผู้นำเอกวาดอร์ ระบุว่า อาจมีการบังคับใช้มาตรการเพิ่มเติมที่จำเป็น หลังจากประเมินสถานการณ์น้ำในภูมิภาค ประเทศ และแต่ละจังหวัดแล้ว

โดยเมื่อวันพุธ (18 ก.ย.) หลังจากรัฐบาลเริ่มดำเนินการซ่อมบำรุง หลายพื้นที่ต้องเผชิญกับไฟฟ้าดับนานถึง 6 ชั่วโมง

ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติ (ซีโออี) ขยายการเตือนภัยสีแดงใน 15 จังหวัด รวมไปถึงกรุงกีโต เมืองหลวงของประเทศ

ด้านหอการค้าในเมืองกวายากิล เมืองการค้า ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ประเมินว่า เอกวาดอร์จะสูญเสียเงินราว 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 394 ล้านบาท) ในทุก ๆ ชั่วโมงที่เกิดไฟฟ้าดับ

“เมื่อต้นปี เอกวาดอร์สูญเสียเงินขณะที่ไฟฟ้าดับไปกว่า 1,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 47,361 ล้านบาท) หรือร้อยละ 1.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)” หอการค้ารายงาน โดยอ้างถึงการปันส่วนไฟใช้นานถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงในเวลานั้น.

เครดิตภาพ : AFP