เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “ฝ่าฝุ่น” โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “หมดพายุ Soulik ไป แต่เราจะมีฝนอีก 2-3 วันนะครับ เป็นเพราะลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมหนาว เริ่มเข้ามาปะทะกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดมาตลอดช่วงฤดูร้อนมาหาฝน แนวปะทะจะเป็นร่องฝนยาวจากไทยไปญี่ปุ่นเลย ทั้งสองฝ่ายจะผลัดกันแพ้ชนะไปเรื่อย จนกว่าตะวันออกเฉียงเหนือจะชนะเบ็ดเสร็จ ลมนี้คงตัว แล้วกรมอุตุฯก็จะประกาศไทยเข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ นี่แหละระบบภูมิอากาศของไทย เรียนรู้ง่ายจากประสบการณ์จริง ขอให้ชาวแม่สายฟื้นไวๆ

ว่าไปเราต้องหาทางเลิกเผาไร่ข้าวโพดใกล้ชายแดนในพม่าและลาวกันเสียทีแล้วนะครับ เราเห็นความเลวร้ายเมื่อเจอะฝนบอมป์เหวี่ยงใส่แล้ว ถ้าเราไม่เปลี่ยนพฤติกรรมก็จะโดนอีก อีกไม่นาจากนี้เราก็จะประสบการมลพิษฝุ่น PM2.5 กันอีกรอบ คือโดนกระทำได้ตลอดปี

ในเรื่องนี้พ.ร.บ.อากาศสะอาดจะเริ่มให้สิทธิของประชาชนมากขึ้นในเรื่องสินค้าทีสร้างมลพิษทางอากาศข้ามแดน ขอให้เราช่วยกันดันกฏหมายนี้ให้ผ่านให้ได้ สองวันที่แล้วมีชาวช่องส่งภาพศิลปะนี้มาให้เป็นผลงานของ “สะอาด” มันสื่อ supply chain ของข้าวโพดมาถึงเนื้อสัตว์ แล้วมาถึงตัวเรา แต่ทางแก้อาจจะไม่ต้องเลิกบริโภคเนื้อสัตว์นะครับ เริ่มหาทางทำให้มันยั่งยืนก่อนได้ ราคาในตลาดโลกไม่รวมค่าขนส่งนั้นต่ำกว่าที่เราซื้อขายในไทยอยู่ราว 20% แต่เขาขู่ว่าถ้าเราซื้อนอกเป็นหลักจะมีชาวไร่ข้าวโพดมาประท้วงหลายล้านคน เราต้องการให้เขาปลูกมันอย่างยั่งยืนเท่านัน ไม่ใช่จะทำลายอย่างไรก็ได้ทั้งเผาทั้งน้ำโคลนหลาก

แต่อย่าลืมว่าไฟป่ายังเป็นต้นเหตุของการเผาในที่โล่งที่ใหญ่ที่สุด ในภาคเหนือตอนบนไฟป่าคิดเป็น 85% ของการเผา ถ้าเราลดไฟป่าได้ อากาศจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก มันคือปลาใหญ่ที่เราจะต้องสนใจและแก้เป็นอันดับแรกๆ”

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ เพจ “ฝ่าฝุ่น”