สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (โอเอ็นเอส) ประมาณการในเบื้องต้น ว่ามูลค่าหนี้สาธารณะของประเทศมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 100% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 99.3% เมื่อเดือนก่อนหน้า และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นยุคทศวรรษที่ 1960 ซึ่งมูลค่าหนี้สาธารณะของสหราชอาณาจักรสูงจนแตะระดับดังกล่าว


ขณะที่เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การประกาศแผนงบประมาณฉบับใหม่ ในวันที่ 30 ต.ค. นี้ “จะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ” เนื่องจากจะมีทั้งการขึ้นภาษี และการปรับลดงบประมาณหลายด้าน


ทั้งนี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรชุดปัจจุบันจากพรรคแรงงาน กำลังเผชิญกับเสียงวิจารณ์จากหลายฝ่าย เกี่ยวกับการยกเลิกโครงการสวัสดิการค่าเชื้อเพลิงช่วงฤดูหนาว สำหรับผู้รับบำนาญ 10 ล้านคน และการระงับโครงการปฏิรูปสวัสดิการทางสังคมหลายด้าน และการระงับลงทุนพัฒนาถนน ทางรถไฟ และโรงพยาบาล เพื่อลดการกู้ยืมของรัฐบาล.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES