เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 19 ต.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ป. ,บก.ทล. ,บก.ปอท. บก.ปอศ. รวมถึงหน่วยงานอื่นๆในสังกัด บช.ก. และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “จันทบูร” นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด ในพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี มาทำการแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
ทั้งนี้จากปฏิบัติการดังกล่าวเข้าตรวจค้นทั้ง 9 จุด เจ้าหน้าที่พบตัวผู้กระทำผิดพร้อมกับเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมดจำนวน 4 คน ประกอบด้วย จำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1.นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี 2. นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน 3.พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือ พระครูปลัดณัฐดนัยเจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และ กรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี 4.นายเกศสยาม ร่วมดีหจก.สยามช่างบูรพา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าเอกสารต่างๆได้อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับเป้าหมายสำคัญที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 45 และ บ้านเลขที่ 8/2 ถ.เทศบาลสาย 3 ต.ท่าใหม่อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายธนภณ โดยบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านหรู มีรั้วรอบขอบชิด ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงจึงแสดงหมายค้นเข้าตรวจสอบ ก่อนพบนายธนภณ กำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก ก่อนจะเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหา ยัง สภ.เมืองจันทบุรี
จุดที่สอง เข้าตรวจค้นกุฏิสงฆ์ของ พระครูปลัดณัฐดนัยตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิวารี พื้นที่ ม.10 ถ.พระยาตรัง, ต.ท่าช้างอ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี เมื่อไปถึงพบ พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ อยู่ภายในกุฏิดังกล่าว จึงแสดงหมายเข้าตรวจค้นพร้อมอธิบายข้อกฎหมายให้เข้าใจ จากนั้นจึงนิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหา
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตเงินงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี หรือ อบจ.จันทบุรี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสพร้อมสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ จนพบความผิดปกติเงินงบประมาณสนับสนุนประจำปี 2554-2555 ในส่วนของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ เนื่องจากตรวจสอบเอกสารรายงานงบประมาณจัดจ้างและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องต่างๆ พบตัวเลขเงินที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไม่ตรงกับจำนวนเงินงบประมาณที่เบิกจ่าย จึงแกะรอยสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนพบความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทำผิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีตำแหน่งอยู่ในมูลนิธิฯ
โดยการทุจริตดังกล่าวเริ่มต้นจาก นายธนภณ ในฐานะนายก.อบจ.จันทบุรี ได้อนุมัติเงินงบประมาณอุดหนุนของปีงบประมาณ 2554 และปีงบประมาณ 2555 รวมจํานวน 30 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี เมื่อได้รับเงินอุดหนุนจํานวนดังกล่าวแล้ว มูลนิธิฯได้ว่าจ้างหจก. สยามช่างบูรพา ก่อสร้างอาคารสํานักงานมูลนิธิฯ เพียง 12.7 ล้านบาทเศษ คงเหลือเงินอีกจํานวน 17.26 ล้านบาทเศษ ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางมูลนิธิฯ ต้องส่งคืนให้กับอบจ.จันทบุรีแต่นายธนภณ ซึ่งในอีกบทบาทหนึ่งยังดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการและเลขานุการของ มูลนิธิฯ มีหน้าที่ควบคุมกิจการของมูลนิธิฯ ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิฯตามกฎหมาย และทราบข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี กลับไม่ยอมส่งคืนเงินที่เหลือดังกล่าวกลับคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี อีกทั้งต่อมายังให้นายภูวนาถ อดีตผอ.กองแผน และ งบประมาณอบจ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ของ อบจ.จันทบุรี มาจัดทําเอกสารให้กับมูลนิธิฯ ด้วยการทํา สัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้าง 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำเอกสารเท็จขึ้นมา โดยมีพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิกมูลนิธิ กับ นายเกศสยาม ร่วมกระทำผิดด้วย จากนั้นจึงนำสัญญาเท็จที่ทำขึ้นมาฉบับดังกล่าวไปแนบประกอบรายงานผลการดําเนินการให้อบจ.จันทบุรี เพื่ออำพรางปกปิดการทุจริต นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าที่ผ่านมามูลนิธิดังกล่าวยังไม่เคยรายงานข้อมูลการดําเนินงานข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมใหญ่สามัญประจําปีอีกด้วย
สำหรับพุทธมณฑลประจำจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสำหรับปฏิบัติธรรมต่างๆมากมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบเงินงบประมาณที่มูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ได้รับจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี (อบจ.จันทบุรี) เฉพาะเพียงจากวันท่ีก่อตั้งเมื่อปี2552 ถึงปี 2556 ช่วงระยะเวลาประมาณ 5 ปี พบได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 106 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเงินงบประมาณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบว่านอกเหนือจากโครงการดังกล่าวที่ถูกทุจริตแล้วยังมีการทุจริตเงินงบประมาณโครงการอื่นๆอีกหรือไม่ต่อไป.