วานนี้ (19 ก.ย. 2567) สตีเวน รอสส์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทโอเชียนเกตขึ้นให้การในระหว่างการพิจารณากรณีอุบัติเหตุเรือดำน้ำไททันระเบิดแบบยุบตัวหลังจากดำลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเพียงไม่กี่ชั่วโมง รอสส์ชี้ว่า ก่อนหน้าการลงดำน้ำครั้งสุดท้าย 6 วัน เรือไททันประสบเหตุขัดข้องจนทำให้ลูกเรือต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่ภายใน

รอสส์ซึ่งเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลและลูกเรือของการดำน้ำครั้งที่ 87 ของเรือไททันในปี 2566 ให้การว่าระหว่างการลงน้ำครั้งนั้น ระบบทำงานของเรือไททันเกิดผิดพลาด ทำให้ผู้โดยสารในเรือซึ่งมีทั้งหมด 5 คน “ล้มคว่ำคะมำหงาย” และชนเข้ากับท้ายเรือเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชม. 

สต็อคตัน รัช ซีอีโอของโอเชียนเกตเป็นผู้ขับเคลื่อนเรือไททันในครั้งดังกล่าวเช่นกัน และต้องยกเลิกการดำน้ำหลังจากพบปัญหาเกี่ยวกับถังอับเฉาหรือถังถ่วงน้ำหนักเพื่อปรับแต่งสมดุลเรือและควบคุมการลอยตัวของเรือดำน้ำ ทำให้เรือพลิกคว่ำ 45 องศา และท้ายเรือเชิดขึ้น ส่งผลให้รัชพุ่งชนผนังด้านหลัง ผู้โดยสารที่เหลือต่างล้มลุกคลุกคลาน 

รอสส์เล่าต่อหน้าคณะกรรมการสืบสวนของหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งแห่งสหรัฐว่า หลังจากนั้นตัวเขาลงเอยด้วยการไปยืนอยู่ตรงด้านหลังเรือ ผู้โดยสารคนหนึ่งอยู่ในสภาพขาชี้ฟ้า ส่วนอีก 2 คนติดอยู่ตรงหัวเรือส่วนที่เป็นฝาปิด

รอสส์บอกผู้โดยสารเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นและหลังจากใช้เวลานานในการพยายามแก้ไข เขาก็ตัดสินใจที่จะขึ้นไปซ่อมเรือที่ผิวน้ำแทน

อดีตพนักงานยังกล่าวอีกว่าเขาไม่รู้ว่าได้มีการตรวจสอบตัวถังของเรือไททันหรือไม่ หลังจากการดำน้ำที่ล้มเหลวในวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 6 วันก่อนที่เรือจะดำลงใต้ผืนน้ำเป็นครั้งสุดท้าย 

นอกจากนี้ รอสส์ยังยอมรับว่า เขารู้ว่าเรือดำน้ำไททันไม่ได้ผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งสหรัฐ ในปี 2564, 2565 หรือ 2566 รวมถึงกล่าวถึงกรณีเรือมีปัญหาในปี 2565 ระหว่างการดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิก ซึ่งเกิดเสียงดัง “ปัง” ระหว่างขึ้นสู่ผิวน้ำในการลงน้ำครั้งที่ 80 

รอสส์ให้การว่า หลังจากนั้นมีการพูดคุยเกี่ยวกับเสียง “ปัง” ที่เกิดขึ้นกับทีมลูกเรือ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ มีการตั้งทฤษฎีว่าเสียงนั้นคือสิ่งที่บ่งบอกแนวโน้มว่า โครงสร้างตัวเรือในส่วนที่รองรับแรงกดใต้น้ำมีการเคลื่อนตัว และเมื่อมันขยับกลับเข้าที่ก็อาจเกิดเสียงดังได้ 

จากนั้นในการดำน้ำครั้งที่ 81 รอสส์กล่าวว่าตัวขับเคลื่อนของเรือทำงานขัดข้อง

นับตั้งแต่เริ่มการพิจารณาการให้ปากคำของพยานที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์เรือดำน้ำไททันระเบิดต่อหน้าคณะกรรมการของหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งแห่งสหรัฐ ก็เริ่มมีการเปิดเผยถึงข้อมูลและหลักฐานที่บ่งบอกว่า สต็อคตัน รัช ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทโอเชียนเกต เจ้าของเรือไททัน มีความประมาทเลินเล่อ และไม่ใส่ใจมาตรฐานความปลอดภัยของเรือในการทำธุรกิจนำชมซากเรือไททานิกของเขา

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โทนี นิสเซน หัวหน้าทีมวิศวกรของการดำน้ำครั้งสุดท้ายของเรือไททันก็เผยว่าเขามักจะทะเลาะกับรัชอยู่บ่อยครั้ง เพราะรัชมักจะกดดันทีมของเขาให้ทำให้เรือไททันใช้งานได้โดยไม่สนใจอย่างอื่น

ต่อมาในวันอังคาร เดวิด ล็อคริดจ์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของโอเชียนเกตก็ให้รายละเอียดของจุดผิดพลาดที่ “น่าหวั่นใจ” ที่ปรากฏบนโมเดลต้นแบบของเรือไททัน เขายังกล่าวว่า บริษัทโอเชียนเกตคิดเพียงว่าจะหาเงินได้อย่างไรโดยให้ความสนใจในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์น้อยมาก

สำหรับการพิจารณาและการให้ปากคำเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุเรือไททันระเบิดจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า 

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : AFP