นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 เห็นชอบเงินที่จะมอบให้พี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง เป็นกลุ่มแรก รายละ 10,000 บาทนั้น สำคัญคือเป็นที่น่ายินดี และขอฝากถึงพี่น้องคนพิการทุกคนทั่วประเทศว่า วันนี้รัฐบาลได้ขยายเวลาลงทะเบียนให้กับคนพิการทุกคนทั่วประเทศ ไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. 2567 เพื่อที่จะได้รับสิทธิในการรับเงิน 10,000 บาท กระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นคนพิการ ขอให้เร่งมาขึ้นทะเบียน ออกบัตรประจำตัวคนพิการ เพื่อที่จะรักษาสิทธิในการรับเงิน 10,000 บาท
ในขณะนี้ กระทรวง พม. ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ในการขึ้นทะเบียนออกบัตรประจำตัวคนพิการ ให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยโรงพยาบาลศูนย์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ คนพิการสามารถไปที่โรงพยาบาลศูนย์ เพื่อขึ้นทะเบียนออกบัตรประจำตัวคนพิการได้เป็นวันสต็อปเซอร์วิส ส่วนบางจังหวัดที่ยังดำเนินการไม่ได้ ขอให้เร่งไปขึ้นทะเบียน ทางเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. จะเร่งประสานงานเพื่อออกบัตรประจำตัวคนพิการให้กับพี่น้องคนพิการทุกคน เพื่อรักษาสิทธิในการรับเงิน 10,000 บาท
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เรามีตัวเลขคนพิการที่ขึ้นทะเบียนมีบัตรคนพิการล่าสุด 2,000,000 กว่าคน ขณะที่ข้อมูลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุมีคนพิการกว่า 4 ล้านคน ดังนั้นยังมีคนพิการอีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หรืออยู่ในฐานข้อมูลของหน่วยงานอื่น รวมถึงบางส่วนมีการรับเบี้ยความพิการผ่านท้องถิ่นที่จัดสรรให้โดยไม่ได้มีบัตรคนพิการ ซึ่งหากไม่ลงทะเบียน อาจจะทำให้พลาดสิทธิไปได้ จึงต้องมาลงทะเบียน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถคาดประมาณได้ว่า ยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนจำนวนเท่าไหร่ เพราะอย่างที่บอกว่า ยังมีการขึ้นทะเบียนในหลายหน่วยงาน จึงขอเวลาตรงนี้ก่อน และต้องชี้แจงว่าการจ่ายเงิน 10,000 บาท ของผู้ที่ลงทะเบียนเพิ่มเติม อาจจะได้รับเงินดังกล่าวไม่พร้อมกับผู้ที่ลงทะเบียนมาในก่อนหน้านี้ ต้องทยอยจ่ายเป็นช่วงๆ ไป
“หัวใจสำคัญฝากผู้พิการ ว่าเงิน 10,000 บาท ด้วยความหวังดีของท่านนายกฯ นั้น เราหวังอยากให้ผู้พิการเป็นตัวช่วยในการใช้จ่ายในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยจะคล่องตัว เลยอยากให้ผู้พิการได้ใช้เงินเป็นประโยชน์กับตัวผู้พิการที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อครอบครัว การดำรงชีพ การประกอบอาชีพ การเลี้ยงดูตัวเอง ซึ่งจะเป็นการใช้ที่เกิดประโยชน์กับประเทศไทยด้วย” นายวราวุธ กล่าว
