สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ว่า นายชู ไค-พง วัย 27 ปี ให้การรับสารภาพความผิด 1 กระทง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในข้อหา “กระทำการปลุกระดมโดยเจตนา” และเป็นผู้ต้องหาคนแรกภายใต้กฎหมายใหม่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นของฮ่องกง ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า “มาตรา 23”
อนึ่ง ชู ถูกจับกุมฐานใส่เสื้อยืดที่มีข้อความไม่เหมาะสม และสวมหน้ากากที่มีข้อความประท้วง เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงครั้งใหญ่และรุนแรง ในปี 2562
นายวิกเตอร์ โซ หัวหน้าผู้พิพากษาที่รัฐบาลฮ่องกงเลือกให้พิจารณาคดีความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวในการพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ศาลต้องสะท้อนถึงจุดยืนของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเต็มที่ เกี่ยวกับความร้ายแรงของความผิดนี้
“ผู้ต้องหาใช้ประโยชน์จากวันเชิงสัญลักษณ์ โดยมีความตั้งใจที่จะจุดชนวนความคิดที่อยู่เบื้องหลังความไม่สงบอีกครั้ง” โซ กล่าวเพิ่มเติมว่า ชูไม่สำนักผิดอย่างชัดเจน เนื่องจากเขาเคยถูกจำคุก 3 เดือน ในข้อหาปลุกระดม เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา จากการสวมใส่และเก็บเสื้อผ้า รวมถึงธง ที่มีสโลแกนประท้วง ในกระเป๋าเดินทาง
ทั้งนี้ รายละเอียดในคดีแยกระบุว่า หนึ่งในสโลแกนบนเสื้อผ้าของชู มีข้อความว่า “ปลดปล่อยฮ่องกง การปฏิวัติในยุคของเรา” สามารถปลุกปั่นให้เกิดการแยกตัวเป็นรัฐอิสระได้ ซึ่งชูกล่าวกับตำรวจว่า สโลแกนข้างต้นมีจุดประสงค์ เพื่อเรียกร้องให้ฮ่องกงกลับคืนสู่การปกครองของสหราชอาณาจักร และเขาเลือกใส่เสื้อยืดตัวดังกล่าว เพื่อทำให้สาธารณชนระลึกถึงการประท้วงเมื่อปี 2562 ซึ่งข้อความบนเสื้อของชู ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยกลุ่มผู้ประท้วง
อย่างไรก็ตาม นางซาราห์ บรูกส์ ผู้อำนวยการฝ่ายจีนขององค์การนิรโทษกรรมสากล “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” กล่าวว่า การจำคุกชู ในข้อหาเกี่ยวกับเสื้อผ้าของเขา ถือเป็นการโจมตีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเรียกร้องให้ศาลฮ่องกงเพิกถอนคำตัดสินดังกล่าว.
เครดิตภาพ : AFP