สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ว่า นายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ยอมรับว่า เหตุการณ์เพจเจอร์และวิทยุสื่อสารระเบิด เมื่อวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 37 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 3,000 คน ว่าสร้างความระส่ำระสาย “ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ให้กับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แต่ยืนยันว่า จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป และ “ลงโทษศัตรู” ซึ่งตอนนี้ “ล้ำเส้นหมดทุกอย่าง”
นาสราลเลาะห์ กล่าวว่า “เจตนาของศัตรู” คือต้องการสังหารหมู่ การก่อความก้าวร้าวต่อเลบานอน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน อำนาจอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือได้ว่าเป็นทั้งอาชญากรรมสงคราม หรือการประกาศสงคราม
ทั้งนี้ นาสราลเลาะห์ยืนยัน ว่าโครงสร้างของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังคงแข็งแกร่ง และการติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิก ยังคงดำเนินต่อไปได้ แม้ทิ้งท้ายว่า ไม่ต้องการให้สงครามและความขัดแย้งลุกลามขยายวงกว้าง แต่เตือนว่า ความเคลื่อนไหวของกองทัพอิสราเอลที่จะเกิดขึ้นกับชายแดนติดกับเลบานอนนับจากนี้ “จะย้อนศร” กลับไปที่อิสราเอลเช่นกัน.
เครดิตภาพ : AFP