เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดร.เครก อดัมส์ ทันตแพทย์จากเมืองราลีห์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ต้องตกใจและหัวเสียอย่างมากที่ได้รู้ว่าบ้านหลังงามขนาด 8,300 ตารางฟุตที่เขาอาศัยอยู่มาหลายปีและกำลังอยู่ระหว่างประกาศขายนั้น มีชื่อของคนอื่นเป็นเจ้าของคนใหม่ ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าที่เขาไม่เคยรู้จักก่อน
รายงานข่าวระบุว่า หญิงแปลกหน้าคนนี้ยื่นเอกสารแอบอ้างความเป็นเจ้าของบ้านของ ดร.อดัมส์ ทั้งที่ไม่มีสิทธิ ด้านทันตแพทย์หนุ่มใหญ่อดัมส์เพิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของบ้านของตัวเองอีกต่อไป หลังจากที่เพื่อนบ้านโทรฯ มาถามว่าเขาขายบ้านไปหรือยัง พร้อมกับแจ้งว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า ดอว์น แมงกัม มาขอรหัสเข้าออกประตูบ้านของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น หญิงที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของบ้านของ ดร.อดัมส์ นำเอกสารที่ดูเหมือนเป็นเอกสารรับรองสิทธิตามกฎหมายว่าเธอเป็นเจ้าของบ้านตัวจริงมาแสดงให้ดูด้วย
ดร.อดัมส์กล่าวว่าเขารู้สึกประหลาดใจมากที่พบว่าเอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารที่มาจากสำนักงานจดทะเบียนทรัพย์สินอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่สามารถเพิกถอนได้ เว้นแต่ต้องผ่านกระบวนการศาล
ดร.อดัมส์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานบอกเขาว่าไม่สามารถดำเนินการใด ๆ เพื่อให้เอกสารแอบอ้างสิทธิของแมงกัมเป็นโมฆะ ทางออกเดียวสำหรับเขาก็คือต้องว่าจ้างทนายและยื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งเขาต้องจ่ายเงินราว 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 266,720 บาท) เพื่อดำเนินคดีกับแมงกัมและขอให้แก้ไขชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
ทันตแพทย์เจ้าของบ้านตัวจริงสงสัยว่าแมงกัมอาจเป็นแก๊งขโมยบ้านโดยอาศัยวิธีเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านว่างอย่างผิดกฎหมายและใช้เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์เพื่อชะลอกระบวนการขับไล่ออกจากพื้นที่
ต่อมา แมงกัมได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเอบีซี 7 ว่าเธอยื่นเอกสารขอกรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้เพราะคิดว่าเป็นบ้านที่โดนทิ้งร้าง ซึ่งตามกฎหมายของรัฐแล้ว อนุญาตให้สามารถครอบครองกรรมสิทธิ์เหนือทรัพย์สินประเภทนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของตัวจริง
นอกจากนี้ แมงกัมยังอ้างว่าเธอต้องการคืนกรรมสิทธิ์ให้ ดร.อดัมส์ แต่ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย สำนักทะเบียนฯ บอกเธอว่า เธอไม่สามารถยกเลิกคำร้องได้เมื่อมีการออกเอกสารสิทธิและลงทะเบียนชื่อเจ้าของคนใหม่ไปแล้ว
เจ้าของบ้านตัวจริงกล่าวว่าสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดมากที่สุดก็คือสำนักงานทะเบียนทรัพย์สินในท้องที่ไม่สนใจที่จะตรวจสอบขั้นพื้นฐานก่อนที่จะออกเอกสารครอบครองกรรมสิทธิ์สำหรับบ้านที่มีมูลค่าสูงถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 133.3 ล้านบาท) ให้คนแปลกหน้าที่ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของบ้าน และหวังว่ากรณีของเขาจะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจชาวนอร์ทแคโรไลนา เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขานั้น ดูเหมือนว่า ใครก็ได้สามารถไปที่สำนักงานจดทะเบียนแล้วก็แอบอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทรัพย์สินของคนอื่นได้แบบง่าย ๆ
ดร.อดัมส์ ยังให้ข้อมูลว่าในการออกเอกสารสิทธิให้เจ้าของตัวปลอมนั้น ไม่มีการสอบถามว่าใครคือเจ้าของบ้าน ซึ่งเขาเชื่อว่าเพียงแค่การตรวจสอบเบื้องต้นก็จะพบชื่อของเขาว่าเป็นเจ้าของบ้านตัวจริงอย่างง่ายดาย แต่กลับไม่มีมาตรการใด ๆ ที่จะตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ยื่นคำร้องได้เลย
กระนั้นสำนักทะเบียนทรัพย์สินของนอร์ทแคโรไลนาก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบตามกฎหมายต่อกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานไม่ได้อยู่ภายใต้ระเบียบการที่จะต้องตรวจสอบด้านกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สิน แม้ว่าเจ้าหน้าที่อาจปฏิเสธคำร้องได้หากสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีฉ้อโกง
หลังจากที่เรื่องราวของ ดร.อดัมส์กลายเป็นข่าวไม่กี่วัน สำนักงานนายอำเภอเวคเคาน์ตี เมืองราลีห์ ก็จับกุมและคุมขังดอว์น แมงกัม วัย 30 ปี และตั้งข้อหาว่าเธอแอบอ้างกรรมสิทธิ์อย่างผิดกฎหมายเหนือทรัพย์สินของบุคคลอื่น โดยมีเจตนาฉ้อโกงเพื่อครอบครองบ้านมูลค่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ ดร.อดัมส์
ขณะนี้แมงกัมโดนควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยมีการตั้งวงเงินประกันตัวไว้ที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.32 ล้านบาท) และมีกำหนดขึ้นศาลครั้งแรกในวันอังคารที่ผ่านมา
รายงานข่าวชี้ว่า ต่อให้ศาลตัดสินในท้ายที่สุดว่าแมงกัมมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา ดร.อดัมส์ก็ต้องยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติให้มีการแก้ไขชื่อในทะเบียนผู้ครอบครองทรัพย์สินของเขาอย่างถูกต้องต่อไป
ที่มา : odditycentral.com, wral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, YouTube / WRAL