สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า สืบเนื่องจากความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในเวียดนาม, ไทย, ลาว และเมียนมา เมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่แล้วนั้น

รายงานของยูนิเซฟระบุว่า พายุลูกดังกล่าว ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าถึงน้ำสะอาด, การศึกษา, การดูแลสุขภาพ, อาหาร และที่พักพิง ของเด็กในประเทศเหล่านั้น รวมเกือบ 6 ล้านคน

ในเวียดนาม ประชาชนราว 3 ล้านคน กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วย จากการขาดแคลนน้ำดื่มที่ปลอดภัย และถูกสุขอนามัย ขณะที่ในเมียนมา ประชาชนเกือบ 400,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากน้ำท่วมสูง

ยูนิเซฟระบุว่า พายุยางิได้ซ้ำเติมสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเมียนมาที่รุนแรงอยู่แล้ว และทำให้ผู้ที่ถูกละเลย ต้องเผชิญกับวิกฤติซึ่งเลวร้ายกว่าเดิม

ด้านโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) ประกาศว่า จะเริ่มให้แจกจ่ายอาหารฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน ให้กับประชาชนมากกว่า 500,000 คน ในเมียนมา

ทั้งนี้ ยูนิเซฟรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และระดับน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น จะก่อให้เกิดเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ดังเช่นพายุไต้ฝุ่นยางิ บ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น เป็นอันตรายต่อเด็กในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก มากกว่าในอดีตถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับที่ประชากรรุ่นบรรพบุรุษต้องเผชิญ.

เครดิตภาพ : AFP