สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน รายงานการเกิดเหตุวิทยุสื่อสารระเบิดพร้อมกัน ในพื้นที่หลายแห่งของประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 450 คน
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่า การระเบิดส่วนใหญ่เกิดขึ้นตามฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ คือในภาคใต้ ภาคตะวันออกของเลบานอน และบางเขตของกรุงเบรุต โดยวิทยุสื่อสารที่สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้งาน เกิดระเบิดพร้อมกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังเพจเจอร์หลายร้อยเครื่องที่มีการใช้งานในเลบานอน ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์นิยมใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการดักสัญญาณ ระเบิดพร้อมกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รวมถึงเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ที่เป็นบุตรสาวของหนึ่งในสมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2,800 คน
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องคู่กรณีทุกฝ่ายอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงตอบโต้กัน และนายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า การยกระดับหรือขยายขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร ไม่อาจช่วยคลี่คลายความขัดแย้งและวิกฤติทั้งหมดได้
แม้อิสราเอลยังไม่มีความเห็นต่อทั้งสองเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า คณะรัฐมนนตรีความมั่นคงทางการเมือง มีมติ “ขยายเป้าหมายสงคราม” ว่านอกเหนือจากการกวาดล้างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา พรมแดนทางเหนือของอิสราเอลที่ติดกับเลบานอน “ต้องปลอดภัย” เช่นกัน เพื่อให้ประชาชนที่อพยพออกไปก่อนหน้านั้น สามารถกลับเข้าไปอาศัยได้ตามเดิม
ส่วนนายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า “แรงโน้มถ่วงของสงครามเหวี่ยงไปทางเหนือของอิสราเอลแล้ว”
อีกด้านหนึ่ง บริษัทโกลด์ อะพอลโล ของไต้หวัน และบริษัทบีเอซี คอนซอลติง เคเอฟที ซึ่งเป็นพันธมิตรในฮังการีของโกลด์ อะพอลโล ต่างออกมาปฏิเสธ ว่าเป็นผู้ผลิตเพจเจอร์ที่ระเบิดในเลบานอน.
เครดิตภาพ : AFP